ศึกฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปาลีก รอบน็อคเอาท์ เพลย์ออฟ นัดแรก เมื่อคืนวันที่ 17 ก.พ. “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า เปิดรังคัมป์ นู ต้อนรับ นาโปลี เกมนี้ ชาบี้ เอร์นานเดซ กุนซือเจ้าบ้านตัดสินใจปรับทัพบางตำแหน่ง แต่ให้ ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมยอง ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในแนวรุกเพื่อประสานงานกับ เฟร์ราน ตอร์เรส และ อดาม่า ตราโอเร่ ด้านทีมเยือนของกุนซือ ลูชาโน่ สปัตเลตติ ให้พวกแข้งหลักลงสนามทั้งหมด นำทัพโดย อันเดร-ฟรองค์ แซมโบ อองกีสซ่า, ฟาเบียน รุยซ์, เอลจีฟ เอลมาส, วิคเตอร์ โอซิมเฮน และ ลอเรนโซ่ อินซิเญ่
ในช่วงครึ่งแแรก นาโปลี ออกนำไปก่อนจาก ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ ในนาที 29 แต่เจ้าบ้านตามทวงคืนได้จากการสังหารจุดโทษของ เฟร์ราน ตอร์เรส ในนาที 59 หมดเวลาการแข่งขัน เสมอ 1-1 สำหรับนัดที่ 2 “เจ้าบุญทุ่ม” จะต้องออกไปเยือน นาโปลี ที่สตาดิโอ ดิเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า เพื่อชี้ชะตาผ่านเข้ารอบกันในคืนวันที่ 24 ก.พ.นี้กันต่อไป
หลังจบเกม ชาบี เอร์นันเดซ กุนซือ “เจ้าบุญทุ่ม” เอ่ยปากบ่นด้วยความเสียดาย เพราะว่าลูกทีมมีโอกาสลุ้นยิงประตูหลายครั้งเลย โดยมีสถิติได้สับไกมากถึง 21 ครั้งเลยทีเดียว แต่ว่าขาดความเฉียบขาดในจังหวะสุดท้าย และมาได้ประตูจากลูกจุดโทษอีกต่างหาก จึงรู้สึกผิดหวังผลงานของลูกทีมในแนวรุกอยู่ไม่น้อย แต่ยังเชื่อมั่นว่าทีมของเขาจะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป แม้ว่าเกมนัดที่ 2 จะต้องเตรียมเจอกับงานที่ยากลำบากอย่างแน่นอน เพราะจะต้องออกไปเล่นนอกบ้านนั่นเอง