ศึกฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปาลีก รอบน็อคเอาท์ เพลย์ออฟ นัดที่ 2 เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ. “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ยกพลบุกไปเยือน นาโปลี ได้ถึงสตาดิโอ ดิเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า หลังจากนัดแรกเปิดบ้านเสมอมาก่อนด้วยสกอร์ 1-1 เกมนี้ ชาบี้ เอร์นันเดซ กุนซือเจ้าบ้านให้พวกแข้งดังลงสนามเกือบทั้งหมด โดยแนวรุกใช้ 3 ประสาน เฟร์ราน ตอร์เรส, อดาม่า ตราโอเร่ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ส่วนเจ้าบ้านของกุนซือ ลูชาโน่ สปัลเลตติ ยังคงจัดทีมชุดใหญ่ลงสนาม นำทัพโดย ฟาเบียน รุยซ์, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่, เอลจิฟ เอลมาส และ วิคเตอร์ โอซิมเฮน
ในช่วงครึ่งแรก “เจ้าบุญทุ่ม” ออกนำไปก่อน 2 ประตูจาก ฆอร์ดี้ อัลบา ในนาที 8 และ เฟรงกี้ เดอ ยอง ในนาที 13 หลังจากนั้น นาโปลี ตีไข่แตกได้จาก ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ ในนาที 23 แต่ทีมเยือนหนีห่างออกไปอีกเม็ดจาก เกราร์ด ปิเก้ ในนาที 45 เข้าสู่ครึ่งหลัง บาร์ซ่า ยิงเพิ่มได้อีกหนึ่งเม็ดจาก ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมยอง ในนาที 59 แต่เจ้าบ้านยิงได้ตามมาได้อีกลูกจาก มัตเตโอ โปลิตาโน่ ในนาที 87 หมดเวลาการแข่งขัน บาร์เซโลน่า เป็นฝ่ายชนะ 4-2 จึงได้ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 2 นัด 5-3
หลังจบเกม ชาบี้ เอร์นันเดซ กุนซือ “เจ้าบุญทุ่ม” เอ่ยปากชมลูกทีมที่เล่นกันได้ดีมากๆ และเกมนี้อาจจะเป็นผลงานที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้เสียด้วยซ้ำ เพราะนักเตะเล่นกันได้แบบเข้าขารู้ใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ต้องปรับจูนกันมานานหลายเกมเลย แต่ตอนนี้เริ่มจะหาทีมที่ดีที่สุดได้แล้ว จึงพร้อมเดินหน้าเพื่อทำผลงานให้ดีกว่านี้กันต่อไป
ด้าน ลูชาโน่ สปัลเลตติ กุนซือ นาโปลี ยอมรับว่าผิดหวังผลงานของลูกทีมอย่างมาก เพราะพลาดท่าปราชัยคาถิ่นของตัวเองแบบสู้ไม่ได้ และมีรูปเกมเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด จึงเสียประตูแบบไม่น่าจะเสียในหลายๆ จังหวะ ทำให้แฟนบอลต้องพบกับผิดหวัง ซึ่งไม่ต่างจากตัวเขาเลย