ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ เมื่อคืนวันที่ 1 ก.พ. “แซมบ้า” บราซิล เปิดรังเอสตาดิโอ โกเวอร์นาดอร์ มากัลเญส ปินโต้ ต้อนรับการมาเยือนของ โคลอมเบีย เกมนี้ ติเต้ กุนซือเจ้าบ้านมีการปรับทัพบางตำแหน่ง โดยแดนกลางวาง ลูคัส เปเกต้า คุมเกมร่วมกับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ส่วนแนวรุกใช้ 3 ประสาน ราฟินญ่า, วินิซิอุส จูเนียร์ และ มาเตอุส คุนญ่า ด้านทีมเยือนของกุนซือ กิลแยร์โม่ บาร์รอส เชล็อตโต้ ให้พวกแข้งหลักลงสนามเกือบทั้งหมด นำทัพโดย ริชาร์ด ซานเชซ, ไบรอัน โอเยด้า, มิเกล อัลเมรอน และ คาร์ลอส กอนซาเลซ
ในช่วงครึ่งแรก “แซมบ้า” ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก ราฟินญ่า ในนาที 28 ส่วนในช่วงครึ่งหลัง เจ้าบ้านยิงเพิ่มได้อีก 3 เม็ดจาก ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ในนาที 62, แอนโธนี่ ในนาที 86 และ โรดรีโก้ โกเอส ในนาที 88 หมดเวลาการแข่งขัน บราซิล เป็นฝ่ายชนะ 4-0 ยังคงจ่าฝูงต่อไป แข่ง 15 นัด มี 39 คะแนน และได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปนานแล้ว ด้าน ปารากวัย รั้งรองบ๊วยอันดับ 9 แข่ง 16 นัด มีเพียง 13 คะแนน จึงหมดลุ้นผ่านเข้ารอบสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 กลุ่ม เอ นัดที่ 8 “โสมขาว” เกาหลีใต้ ต้องเผชิญหน้ากับ ซีเรีย โดยเตะกันที่ราชิด สเตเดี้ยม ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกมนี้ “โสมขาว” ได้ 2 ประตูในช่วงครึ่งหลังจากฝีเท้าของ คิม จิน-ซู ในนาที 53 และ ควอน ชาง-ฮูน ในนาที 71 จึงเป็นฝ่ายคว้าชัยด้วยสกอร์ 2-0 ส่วนผลคู่อื่นในกลุ่ม เอ อิหร่าน ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1-0, เลบานอน เสมอ อิรัก 1-1
ทำให้ เกาหลีใต้ คว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายได้สำเร็จ แม้จะเหลือเกมฟาดแข้งในรอบคัดเลือกอีก 2 นัดก็ตาม โดยตอนนี้อยู่อันดับ 2 ของกลุ่ม เอ แข่ง 8 นัดยังไร้พ่าย มี 20 คะแนน ทิ้งห่าง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทีมอันดับ 3 แบบขาดลอยไปแล้ว 11 แต้มเลยทีเดียว และตามหลัง อิหร่าน ทีมจ่าฝูงแบบไร้พ่ายที่ได้เข้ารอบไปแล้วในฐานะทีมแรกของทวีปเอเชียอยู่ 2 คะแนนด้วย นอกจากนี้ “โสมขาว” ยังได้ผ่านเข้าไปโชว์ฝีเท้าในรอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 11 อีกด้วยต่อจากปี 1954, 1986, 1990, 1994, 1998, 2002, 2006, 2010, 2014 และ 2018 และเป็นครั้งที่ 10 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 1986 เป็นต้นมา
ส่วนผลกลุ่ม บี ญี่ปุ่น ชนะ ซาอุดิอาระเบีย 2-0, โอมาน เสมอ ออสเตรเลีย 2-2, เวียดนาม ชนะ จีน 3-1 โดยกลุ่มนี้ ซาอุดิอาระเบีย ยังคงรั้งจ่าฝูง มี 19 แต้ม ตามมาด้วย ญี่ปุ่น ทีมอันดับ 2 มี 18 แต้ม และ ออสเตรเลีย ทีมอันดับ 3 มี 15 แต้ม ทำให้ทั้ง 3 ชาติลูกหนังยังคงต้องเบียดแย่ง 2 อันดับแรกเพื่อคว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายกันต่อไป