ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 27 ธ.ค. “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยกพลบุกไปเยือน “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ที่เซนต์ เจมส์ ปาร์ค เกมนี้ ราล์ฟ รังนิค กุนซือทีมเยือนตัดสินใจให้ ราฟาเอล วาราน กองหลังที่เพิ่งหายเจ็บลงไปยืนคุมแนวรับคู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ส่วนแนวรุกวาง เมสัน กรีนวูู้ด ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ส่วนเจ้าบ้านของกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว ได้ อัลแล็ง แซงต์ มักซิแม็ง ฟิตลงไปประสานในแนวรับร่วมกับ ไรอัน ฟราเซอร์ และ คัลลัม วิลสัน
เริ่มเกมไปเพียง 7 นาที “สาลิกาดง” ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก อัลแล็ง แซงต์ มักซิแม็ง จบครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล เป็นฝ่ายออกนำ 1-0 ในช่วงครึ่งหลัง “ปีศาจแดง” เปลี่ยนตัว เอดินสัน คาวานี่ ให้ลุกจากม้านั่งสำรองลงสนามไปล่าตาข่าย และเป็นกองหน้าจอมเก๋าชาวอุรุกวัยซัดประตูตีเจ๊าในนาที 71 หมดเวลาการแข่งขัน เสมอ 1-1 ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชวดแซง สเปอร์ส ขึ้นไปอยู่อันดับ 5 โดยยังอยู่อันดับ 7 แข่ง 17 นัด มี 28 คะแนน ส่วน นิวคาสเซิ่ล อยู่รองบ๊วยอันดับ 19 แข่ง 19 นัด มี 11 แต้ม
หลังจบเกม ราล์ฟ รังนิค กุนซือ “ปีศาจแดง” ถึงกับส่ายหัวไม่โอเคกับผลงานของลูกทีม เพราะเล่นกันไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย และมีความผิดพลาดเกิดขึ้นในหลายจังหวะๆ อีกด้วย โดยเฉพาะลูกที่เสียประตูเพราะนักตะในแนวรับเล่นบอลหลายจังหวะมากเกินไปนั่นเอง ส่วนในครึ่งหลังถือว่าทำผลงานได้ดีขึ้น แต่ยังคงต้องปรับปรุงให้เรื่องของพละกำลัง เพราะดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงจะหดหายไปในช่วงท้ายเกม ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าไม่ได้ลงสนามมานานถึง 10 กว่าวันก็เป็นได้ หลังจากที่โปรแกรมฟาดแข้งถูกเลื่อนมาแล้ว 2 นัดจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั่นเอง แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างให้กับผลเสมอในนัดนี้เลย
พร้อมกันนี้ Optajoe หน่วยงานจอมเก็บสถิติฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเปิดเผยผลงานของตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงไปยิงประตูให้ “ปีศาจแดง” ได้มากที่สุด ปรากฎว่า คาวานี่ รั้งอันดับ 5 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงไปสอยตาข่ายให้ทีมได้ทั้งหมด 6 ลูกจากการลงเล่นเป็นตัวสำรองทั้งหมด 17 ครั้ง ส่วนอันดับ 4 เป็นของ อองโตนี่ มาร์กซิยัล 8 ลูก, อันดับ 3 มาร์คัส แรชฟอร์ด 9 ลูก, อันดับ 2 “ชิชาริโต้” ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ 14 ลูก และปิดท้ายด้วยอันดับ 1 นั่นก็คือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด คนก่อน 17 ลูก