ศึกฟุตบอลนัดกระชับมิตร เมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค. “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี เปิดรังพรีเซโร่ อารีน่า ต้อนรับการมาเยือนของ อิสราเอล เกมนี้ ฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิค กุนซือเจ้าบ้านมีการปรับทัพหลายตำแหน่งเพื่อลองทีม เพราะได้เรียกตัวนักเตะสายเลือดใหม่เข้ามารับใช้ชาติหลายคนเลย โดยแนวรุกให้ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ ลงไปประสานงานกับ ติโม แวร์เนอร์ และ ไค ฮาเวิร์ตซ ซึ่งเป็น 2 แนวรุกจาก เชลซี ด้านทีมเยือนของกุนซือ กาดี้ บรูเมอร์ ให้พวกแข้งหลักลงสนามเกือบทั้งหมด นำทัพโดย โมฮัมหมัด อาบู ฟานี่, เมเนอร์ โซโลมอน, ไท บาริโบ และ มูนาส ดับบูร์
ในช่วงครึ่งแรก เยอรมนี ออกนำไปก่อน 2 ประตูจาก ไค ฮาเวิร์ตซ ในนาที 37 และ ติโม แวร์เนอร์ ในช่วงทดเจ็บไปแล้ว 2 นาที เข้าสู่ครึ่งหลัง “อินทรีเหล็ก” ให้พวกแข้งสำรอง รวมถึงนักเตะดาวรุ่งลงสนามหลายคนเลย และไม่มีการยิงประตูกันเพิ่มเติม หมดเวลาการแข่งขัน เยอรมนี เป็นฝ่ายชนะ 2-0 สำหรับนัดต่อไป “อินทรีเหล็ก” จะเตะอุ่นแข้งนัดเปิดบ้านต้อนรับ ฮอลแลนด์ ในคืนวันที่ 29 มี.ค.นี้
หลังจบเกม ฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิค กุนซือ “อินทรีเหล็ก” พอใจกับผลงานลูกทีมหลายๆ คน แม้จะให้พวกนักเตะสายเลือดใหม่ได้ลงเล่นหลายรายเลย แต่กลับไม่มีอาการตื่นสนามให้เห็นเลย จึงมั่นใจว่านักเตะเหล่านี้จะก้าวเท้าขึ้นมาเป็นขุมกำลังหลักของทีมชาติในอนาคตได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะ นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค กับ อันทอน สตัค ที่เพิ่งได้รับโอกาสให้ลงประเดิมสนามรับใช้บ้านเกิดเป็นนัดแรกเลย และทำให้ “อินทรีเหล็ก” เก็บชัยชนะได้ถึง 8 ติดต่อกันแล้วด้วย นับตั้งแต่โค้ชวัย 57 ปีก้าวเท้าเข้ามารับงานคุมทัพในช่วงหลังจบศึกยูโร 2020 เมื่อกลางปีก่อน
ด้าน ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าทีมชาติเยอรมนียอมรับว่ารู้สึกดีใจที่ยิงประตูให้บ้านเกิดได้ จึงมั่นใจว่าจะช่วยเรียกความมั่นใจให้กลับมาได้เลย หลังทำผลงานในยามลงสนามรับใช้ทีมต้นสังกัดได้ไม่ค่อยดีนัก โดยฤดูกาลนี้เพิ่งได้เพียงแค่ 7 ประตูจากการลงสนามให้ เชลซี ไปแล้ว 28 เกมในทุกรายการ และเพิ่งสอยตาข่ายในศึกพรีเมียร์ลีกได้เพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น