ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 18 ม.ค. “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี บุกไปเยือน ไบรท์ตัน ที่เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม เกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือทีมเยือนปรับทัพบางตำแหน่ง โดยให้ จอร์จินโญ่ กลับมายืนคุมแดนกลาง และให้ เมสัน เมาท์ กลับมาประสานแนวรุกร่วมกับ ฮาคิม ซีเย็ค และ โรเมลู ลูกากู ด้านเข้าบ้านของกุนซือ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ปรับทัพด้วยเช่นกัน โดยแดนกลางให้ สตีเว่น อัลซาเต้ ยืนคู่กับ ปาสกาล โกรสส์ ส่วนแนวรุกให้ แดนนี่ เวลเบ็ค ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า
ในช่วงครึ่งแรก “สิงโตน้ำเงินคราม” ออกนำไปก่อนจาก ฮาคิม ซีเย็ค ในนาที 28 เข้าสู่ครึ่งหลัง ไบรท์ตัน ตามทวงคืนได้จาก อดัม เว็บสเตอร์ ในนาที 60 หลังจากนั้นไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น หมดเวลาการแข่งขัน เสมอ 1-1 ต้องแบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน ทำให้ เชลซี ชวดแซงหน้า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ขึ้นไปยึดรองจ่าฝูง เพราะยังอยู่อันดับ 3 แข่ง 23 นัด มี 44 คะแนน ตามหลัง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 2 ที่แข่งน้อยกว่า 2 เกมอยู่เพียงแต้มเดียว ส่วน ไบรท์ตัน อยู่อันดับ 9 แข่ง 21 นัด มี 29 แต้ม
หลังจบเกม โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ “เสือเหลือง” ยอมรับว่าลูกทีมมีอาการเหนื่อยล้าจากการกรำศึกหนักแบบต่อเนื่อง จึงโอดครวญว่าอยากจะได้วันหยุดพักผ่อนเพื่อให้นักเตะได้มีเวลาฟื้นฟูสภาพร่างกายบ้าง เพราะมีปัญหาผู้เล่นผลัดกันหายหน้าหายตาไปจากเหตุผลต่างๆ กันแบบต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาบาดเจ็บ รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย ทำให้ เชลซี เก็บชัยชนะในศึกพรีเมียร์ลีกจาก 7 เกมหลังสุดได้เพียงแค่นัดเดียว และไล่ตามหลัง “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงห่างถึง 12 แต้มเลยทีเดียว พร้อมกับเอ่ยปากชม ไบรท์ตัน เตรียมตัวกันมาดีมากๆ และกล้าเล่นจนสามารถสร้างความปั่นป่วนให้ทีมของเขาได้ตลอดทั้งเกมเลยด้วย
ด้าน เกรแฮม พ็อตเตอร์ กุนซือ ไบรท์ตัน สดุดีผลงานของลูกทีมที่สามารถแบ่งแต้มจากทีมแกร่งอย่าง เชลซี ได้สำเร็จ และเอ่ยปากชมนักเตะที่กล้าเล่นกล้าเปิดเกมเข้าใส่แบบไม่เกรงกลัวเลยด้วย ทำให้แฟนบอลในสนามรู้สึกสนุกกับเกมนัดนี้ไปด้วยเลย และเปิดเผยด้วยว่าไม่ได้สนใจรายงานข่าวเรื่องที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งกุนซือคนใหม่ของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน โดยตอนนี้ขอโฟกัสกับงานคุมทีมต้นสังกัดปัจจุบันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น