พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี VS สเปอร์ส
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา : 23.30 น.
เชลซี
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก : ชนะ สเปอร์ส 2-0 (เหย้า)
เอฟเอ คัพ รอบ 3 : ชนะ เชสเตอร์ฟิลด์ 5-1 (เหย้า)
คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 : ชนะ สเปอร์ส 1-0 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ ไบรท์ตัน 1-1 (เยือน)
โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ “สิงโตน้ำเงินคราม” จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่บุกไปเสมอ ไบรท์ตัน 1-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยให้ได้อีกครั้ง หลังไม่พบกับชัยชนะในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมาแล้ว 2 นัด โดยตอนนี้อยู่อันดับ 3 แข่ง 23 นัด มี 44 คะแนน ตามหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 2 เพียงแต้มเดียวเท่านั้น จึงมีโอกาสลุ้นแซงขึ้นไปยึดรองจ่าฝูงได้เหมือนกัน หากว่า ลิเวอร์พูล ไม่พบกับชัยชนะจากเกมในช่วงคืนวันเดียวกัน จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามไปเลย เพราะใช้งานพวกแข้งหลักได้เกือบทั้งหมด แนวรับจะให้ ติอาโก้ ซิลวา ยืนคู่กับ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ แดนกลางวาง จอร์จินโญ่ คุมเกมร่วมกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แนวรุกน่าจะให้ ติโม แวร์เนอร์ ลงไปประสานงานกับ เมสัน เมาท์ และ โรเมลู ลูกากู
รายชื่อ 11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-2-2-2
ผู้รักษาประตู : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า
แนวรับ : เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, มาร์กอส อลอนโซ่
แดนกลาง : จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้
แนวรุก : ฮาคิม ซีเย็ค, เมสัน เมาท์
กองหน้า : โรเมลู ลูกากู, ติโม แวร์เนอร์
สเปอร์ส
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ วัตฟอร์ด 1-0 (เหย้า)
คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก : แพ้ เชลซี 0-2 (เยือน)
เอฟเอ คัพ รอบ 3 : ชนะ มอร์แคมป์ 3-1 (เหย้า)
คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 : แพ้ เชลซี 0-1 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เลสเตอร์ 3-2 (เยือน)
อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือ “ไก่เดือยทอง” จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่บุกไปยิงแซงชนะ เลสเตอร์ 3-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก เพื่อลุ้นเก็บชัยขยับขึ้นไปยึดอันดับ 4 โดยตอนนี้อยู่อันดับ 6 แข่ง 19 นัด มี 36 คะแนน ตามหลัง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 เพียง 2 คะแนน จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนามทั้งหมด เพราะไม่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม แนวรับได้ เอริค ไดเออร์ หายเจ็บกลับมายืนร่วมกับ ดาวินซอน ซานเชซ และ เบน เดวิส แดนกลางวาง โอลิเวอร์ สคิปป์, แฮร์รี่ วิงค์ส และ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก ยืนคุมเกมร่วมกัน แนวรุกพร้อมให้ แฮร์รี่ เคน กับ ลูคัส มูร่า ยืนเป็นกองหน้าคู่กัน
รายชื่อ 11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 3-5-2
ผู้รักษาประตู : อูโก้ ยอริส
แนวรับ : เอริค ไดเออร์, ดาวินซอน ซานเชซ, เบน เดวิส
แดนกลาง : เอแมร์ซอน รอยัล, โอลิเวอร์ สคิปป์, แฮร์รี่ วิงค์ส, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, เซร์คิโอ เรกีลอน
กองหน้า : แฮร์รี่ เคน, ลูคัส มูร่า
ความน่าจะเป็น
เหมือนจะมีปัญหาเรื่องของเกมรุกที่ยังแก้ไขไม่ได้เสียที เนื่องจาก เชลซี โชว์ฟอร์มได้ดีในหลายๆ เกม แต่ว่าใช้โอกาสจบสกอร์เปลืองมากๆ ส่วนพวกแข้งดังยังคงพร้อมลงเล่นทั้งหมด ขณะที่ สเปอร์ส ลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีกได้แบบแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และยังไม่พบกับความพ่ายแพ้ในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเลยด้วย นับตั้งแต่ อันโตนิโอ คอนเต้ ก้าวเท้าเข้ามาสวมบทเป็นกุนซือเมื่อช่วงปลายปีก่อน คาดว่าเกมคู่นี้มีโอกาสลงเอยด้วยผลเสมอได้เหมือนกัน
ผลที่คาด : เชลซี เสมอ สเปอร์ส 1-1
โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
21.00 น. เลสเตอร์ VS ไบรท์ตัน
21.00 น. อาร์เซนอล VS เบิร์นลีย์
21.00 น. คริสตัล พาเลซ VS ลิเวอร์พูล
23.30 น. เชลซี VS สเปอร์ส