ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 10 มี.ค. “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ยกพลบุกไปเยือน “นกขมิ้น” นอริช ที่คาร์โรว์ โร้ด ท่ามกลางวิกฤตจากเรื่องนอกสนามที่ทำให้สถานการณ์ของสโมสรไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือทีมเยือนปรับทัพบางตำแหน่ง โดยตัวริมเส้นได้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กลับมาสวมบทเป็นแบ็กขวา และขยับ ซาอูล นิเกซ ไปยืนเป็นแบ็กซ้าย ส่วนแนวรุกให้ ติโม แวร์เนอร์ ลงไปประสานงานกับ เมสัน เมาส์ และ ไค ฮาเวิร์ตซ ด้านเจ้าบ้านของ ดีน สมิธ ยังคงจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม นำทัพโดย มาติอาส นอร์มันน์, ปิแอร์ ลีส-เมอลู, เคนนี่ แม็คลีน, ตีมู ปุ๊กกี้ และ โจชัว ซาร์เก้นท์
ในช่วงครึ่งแรก “สิงโตน้ำเงินคราม” ขึ้นนำไปก่อน 2 ประตูจาก เทรโวห์ ชาโลบาห์ ในนาที 3 และ เมสัน เมาท์ ในนาที 14 จบครึ่งแรก เชลซี ออกนำ 2-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง นอริช ตีไข่แตกได้จาก ติมู ปุ๊กกี้ จุดโทษในนาที 69 หลังจากนั้นทีมเยือนซัดเพิ่มได้อีกเม็ดจาก ไค ฮาเวิร์ตซ ในนาที 90 หมดเวลาการแข่งขัน เชลซี บุกไปชนะ 3-1 ยังคงรั้งอันดับ 3 แข่ง 3 แข่ง 27 นัด มี 56 คะแนน ส่วน นอริช ยังคงรั้งบ๊วยอันดับ 20 แข่ง 28 นัด มี 17 แต้ม
หลังจบเกม โธมัส ทูเคิล กุนซือ “สิงโตน้ำเงินคราม” ชื่นชมลูกทีมที่ยังคงมีสมาธิกับเกมในสนามเป็นอย่างดี แม้ว่าสโมสรจะต้องเผชิญหน้ากับคำสั่งของรัฐบาลอังกฤษที่ได้ประกาศห้ามไม่ให้ เชลซี ทำธุรกรรมการเงินเพื่อคว่ำบาตรเจ้าของทีม นั่นก็คือ “เสี่ยหมี” โรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เพราะมีความชิดเชื้อกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำสูงสุดแดนหมีขาวที่ได้สั่งกองทัพทหารบุกไปรุกรานยูเครน ซึ่งอาจจะเป็นชนวนเหตุให้เกิดสงครามในวงกว้างได้เหมือนกัน และยอมรับว่า นอริช สามารถสร้างความยากลำบากได้เกือบตลอดทั้งเกมเลย แต่ทีมของเขาเล่นได้ดีกว่า จึงสมควรเก็บ 3 คะแนนเต็มกลับบ้านได้ตามเป้า
ด้าน ดีน สมิธ กุนซือ “นกขมิ้น” ยอมรับว่ายังหาจุดเปลี่ยนไม่เจอ จึงไม่สามารถกระตุ้นให้ลูกทีมเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้เสียที และต้องพบกับความพ่ายแพ้ในศึกพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันไปด้วยเลย แต่ยังพร้อมมุ่งมั่นเพื่อหนีการตกชั้นให้ได้
สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
นอริช แพ้ เชลซี 1-3
เซาแธมป์ตัน แพ้ นิวคาสเซิ่ล 1-2
วูล์ฟแฮมป์ตัน ชนะ วัตฟอร์ด 4-0
ลีดส์ ยูไนเต็ด แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-3
