ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 5 มี.ค. “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี บุกไปเยือน เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟ มัวร์ เกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ “สิงโตน้ำเงินคราม” มีการปรับทัพบางตำแหน่ง โดยเฉพาะแดนกลางให้ ซาอูล นิเกซ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพื่อคุมเกมร่วมกับ จอร์จินโญ่ และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ส่วนแนวรุกให้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเพื่อประสานงานกับ คริสเตียน พูลิซิช และ เมสัน เมาท์ ขณะที่เจ้าบ้านของกุนซือ ฌอน ไดซ์ ยังคงจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม นำทัพโดย ดไวท์ แม็คนีล, อารอน เลนนอน, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, วูต เวกฮอร์สท์ และ เจย์ โรดริเกซ
ในช่วงครึ่งแรกไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น แม้ว่า เชลซี จะมีโอกาสสับไกหลายครั้งเลยก็ตาม จบ 45 นาทีแรก เสมอ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง “สิงโตน้ำเงินคราม” ซัลโวได้ทีเดียว 4 ประตูรวดจาก รีซ เจมส์ ในนาที 48, ไค ฮาเวิร์ตซ ซัดเบิ้ลเหมา 2 เม็ดในนาที 53, 55 และ คริสเตียน พูลิซิช ในนาที 69 หมดเวลาการแข่งขัน เชลซี บุกไปถล่ม 4-0 จึงยังคงรั้งอันดับ 3 แข่ง 26 นัด มี 53 คะแนน ตามหลัง ลิเวอร์พูล ทีมรองจ่าฝูงอยู่ถึง 10 คะแนน ส่วน เบิร์นลีย์ อยู่อันดับ 18 แข่ง 26 นัด มี 21 คะแนน
หลังจบเกม โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ “สิงโตน้ำเงินคราม” ยอมรับว่าในช่วงหลังจากที่ได้ประตูแรก ทำให้ทีมของเขาเล่นกันได้ง่ายขึ้นไปด้วยเลย เพราะเป็นการปลดล็อกที่ช่วยให้ทีมเก็บชัยได้สำเร็จ จึงขอบคุณประตูแรกจากฝีเท้าของ รีซ เจมส์ ในช่วงต้นครึ่งหลัง ซึ่งช่วยให้ทีมคลายความกดดันไปได้เยอะเลยและได้เอ่ยปากชมลูกทีมที่เล่นกันแบบอดทน เพราะค่อยๆ สร้างปัญหาให้กับแผงหลังของทีมเจ้าบ้านได้มากกว่าในช่วงครึ่งแรก ส่วนนักเตะในแนวรุกนัดกันเค้นฟอร์มเก่งออกมาโชว์ได้พร้อมกันพอดีเลยแล้ว จึงรู้สึกภูมิใจในตัวของลูกทีมที่ยังคงโฟกัสเรื่องของกีฬาเป็นหลัก สำหรับเรื่องอื่นๆ ปล่อยให้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนอกสนามดีกว่า
สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
เลสเตอร์ ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-0
แอสตัน ชนะ เซาแธมป์ตัน 4-0
เบิร์นลีย์ แพ้ เชลซี 0-4
นิวคาสเซิ่ล ชนะ ไบรท์ตัน 2-1
นอริช แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-3
วูล์ฟแฮมป์ตัน แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-2
ลิเวอร์พูล ชนะ เวสต์แฮม 1-0