ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อคืนวันที่ 8 ม.ค. “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ เชสเตอร์ฟิลด์ ทีมรองบ่อนจากนอกลีก หรือเทียบเท่าระดับดิวิชั่น 5 เกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ เชลซี มีการโรเตชั่นผู้เล่นในหลายตำแหน่ง แต่ให้พวกแข้งดังลงสนามหลายคนเลยด้วย โดยเฉพาะแนวรุกวาง ติโม แวร์เนอร์ ยืนเป็นกองหน้าร่วมกับ โรเมลู ลูกากู ไปเลย ด้านทีมเยือนของกุนซือ เจมส์ โรว์ จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม นำทัพโดย อเล็กซ์ วิตเติล, เจฟฟ์ คิง, ไซดู ข่าน, เจมส์ เคลเลอร์แมน และ คาบองโก้ ชิมังก้า
ในช่วงครึ่งแรก “สิงโตน้ำเงินคราม” ออกนำไปก่อนถึง 4 ประตูจากการยิงของนักเตะแบบซ้ำหน้ากัน ไล่ตั้งแต่ ติโม แวร์เนอร์ ในนาที 6, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ในนาที 18, โรเมลู ลูกากู ในนาที 20 และ อันเดรียส คริสเตนเซ่น ในนาที 39 เข้าสู่ครึ่งหลัง เชลซี ยิงปิดท้ายได้อีกเม็ดจากลูกจุดโทษของ ฮาคิม ซีเยค ในนาที 55 หลังจากนั้นทีมเยือนตีไข่แตกได้จาก อัควาซี่ อาซานเต้ ในนาที 80 หมดเวลาการแข่งขัน เชลซี เป็นฝ่ายไล่ต้อนชนะ 5-1 ได้ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบ 4 แบบสวยงามไปเลย
หลังจบเกม โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ “สิงโตน้ำเงินคราม” พอใจผลงานของลูกทีมที่เร่งปิดจ็อบจบเกมนี้ได้ตั้งแต่ในช่วงครึ่งแรก เพราะเป็นฝ่ายนำห่างไปก่อนถึง 4 ประตูเลยทีเดียว พร้อมกับเอ่ยปากชื่นชม ลูอิส ฮอลล์ กองกลางดาวรุ่งที่ได้รับโอกาสให้ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่เป็นนัดแรก แต่กล้าเล่นเกินวัยแบบไม่มีอาการตื่นสนามให้เห็นเลย และสามารถจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมสอยตาข่ายได้หนึ่งแอสซิสต์อีกด้วย จึงเชื่อมั่นในฝีเท้าของไอ้หนูวัย 17 ปีว่าจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่อย่างแน่นอน
ด้าน ลูวิส ฮอลล์ ยอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่ได้ลงประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ของ เชลซี เป็นนัดแรกในเกมนี้ และได้สร้างสถิตินนักเตะอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในศึกเอฟเอ คัพ ด้วยวัย 17 ปี 122 วันอีกต่างหาก