ศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี เมื่อคืนวันที่ 14 ม.ค. “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดรังซิกนัล อิดูน่า ปาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ “จิ้งจอกแห่งป่าดำ” ไฟร์บวร์ก เกมนี้ มาร์โก โรเซ่ กุนซือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม โดยแดนกลางให้ จูด เบลลิงแฮม คุมแดนกลาง ส่วนแนวรุกวาง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนทีมเยือนของกุนซือ คริสเตียน สไตรช์ ให้พวกแข้งหลักลงสนามเกือบทั้งหมด โดยแดนกลางวาง วินเชนโซ่ กริโฟ่ เป็นตัวปั้นเกม ส่วนกองหน้าให้ ลูคัส โฮเลอร์ ยืนค้ำแนวรุก
ในช่วงครึ่งแรก “เสือเหลือง” ออกนำไปก่อนถึง 3 ประตูจาก โธมัส มูนิเยร์ ซัดเบิ้ลเหมา 2 ประตูในนาที 14, 29 และ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บหนึ่งนาที เข้าสู่ครึ่งหลัง ไฟร์บวร์ก ตามตีไข่แตกได้จาก เออร์เมดิน เดมิโรวิช ในนาที 61 หลังจากนั้น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยิงเพิ่มได้อีก 2 เม็ดจาก เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ซัดเบิ้ลเป็นลูกที่ 2 ในนาที 75 และ มาห์มูด ดาฮูด ในนาที 86 หมดเวลาการแข่งขัน “เสือเหลือง” เป็นฝ่ายไล่ถล่ม 5-1 ยังคงรั้งรองจ่าฝูงต่อไป แข่ง 19 นัด มี 40 คะแนน ตามหลัง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ทีมจ่าฝูงเพียง 3 คะแนน ส่วน “จิ้งจอกแห่งป่าดำ” อยู่อันดับ 4 แข่ง 19 นัด มี 30 แต้ม
หลังจบเกม มาร์โก โรเซ่ กุนซือ “เสือเหลือง” กล่าวสดุดีผลงานของลูกทีมที่ช่วยกันเก็บชัยได้แบบสวยงาม โดยเฉพาะแนวรุกที่เล่นกันได้แบบเข้าขารู้ใจกันเป็นอย่างมาก และเอ่ยปากชม เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ดาวยิงตัวเก่งที่ยังคงยิงประตูได้แบบต่อเนื่อง รวมถึง โธมัส มูนิเย่ร์ ฟูลแบ็กจอมลุยที่เติมเกมขึ้นไปสอยตาข่ายได้ถึง 2 เม็ด จึงสามารถทำคะแนนไล่จี้ทีมจ่าฝูงได้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งโบนัสที่ได้รับจากชัยชนะนัดนี้ด้วยเช่นกัน
ด้าน คริสเตียน สไตรช์ กุนซือ “จิ้งจอกแห่งป่าดำ” ตำหนิลูกทีมที่เล่นผิดพลาดในหลายๆ จังหวะ โดยเฉพาะแนวรับที่พลาดเสียประตูจากจังหวะที่ไม่ควรจะเสียหลายลูกเลย แต่มั่นใจทุกคนจะนำความพ่ายแพ้จากเกมนี้ไปเป็นบทเรียนเพื่อกลับมาคว้าชัยในเกมต่อไป