ศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี เมื่อคืนวันที่ 20 ก.พ. “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดรังซิกนัล อิดูน่า ปาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เกมนี้ มาร์โก โรเซ่ กุนซือเจ้าบ้านยังคงไร้ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กองหน้าตัวเก่งมีปัญหาบาดเจ็บ จึงต้องปรับแนวรุกให้ โจวานนี่ เรย์น่า ลงไปประสานงานกับ มาร์โก รอยส์ และ ดอนเยลล์ มาเลน ส่วนแดนกลางยังคงให้ มาห์มูด ดาฮูด คุมเกมร่วมกับ จูด เบลลิงแฮม ด้านทีมเยือนของกุนซือ อาดิ ฮุตเทอร์ ให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกือบทั้งหมด นำทัพโดย ฟลอเรียน นอยเฮาส์, รามี่ เบนเซไบนี, โยนาส ฮอฟมันน์, อเลสซาน เปลอา และ บรีล เอ็มโบโล่
ในช่วงครึ่งแรก “เสือเหลือง” ออกนำไปก่อน 2 ประตูจาก มาร์โก รอยส์ ในนาที 26 และ ดอนเยลล์ มาเลน ในนาที 32 ส่วนในช่วงครึ่งหลังยิงเพิ่มได้อีก 4 ประตูจาก มาริอุส โวลฟ์ ในนาที 70, ยูสซูฟา มูโกโก้ ในนาที 74, มาร์โก้ รอยส์ ซัดเบิ้ลเป็นเม็ดที่ 2 ของตัวเองในนาที 82 และปิดท้าายด้วยจุดโทษของ เอ็มเร่ ชาน ในช่วงทดเจ็บไปแล้วหนึ่งนาที หมดเวลาการแข่งขัน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นฝ่ายชนะ 6-0 จึงยังคงรั้งอันดับ 2 แข่ง 23 นัด มี 55 คะแนน ตามหลัง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ทีมจ่าฝูงอยู่ 6 คะแนน ส่วน “สิงห์หนุ่ม” อยู่อันดับ 13 แข่ง 23 นัด มี 26 แต้ม
หลังจบเกม มาร์โก โรเซ่ กุนซือ “เสือเหลือง” กล่าวสดุดีผลงานของลูกทีมที่ร่วมใจกันกลับมาเล่นด้วยมั่นใจอีกครั้ง จึงสามารถกลับมาคว้าชัยได้แบบสวยงาม เพื่อแก้ตัวจากความพ่ายแพ้ 2 นัดหลังสุดคาบ้านของตัวเองด้วยสกอร์ขาดลอย นั่นก็คือเกมที่แพ้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2-5 ในศึกบุนเดสลีกา และนัดที่แพ้ เรนเจอร์ส 2-4 ในศึกยูฟ่า ยูโรปาลีก รอบน็อคเอาท์ เพลย์ออฟ นัดแรก และทำให้ทีมของเขายังคงเกาะกลุ่มตามลุ้นแชมป์ต่อไปด้วย พร้อมกับเปิดเผยเรื่องอาการบาดเจ็บของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ว่ายังต้องรอให้สภาพร่างกายกลับมาฟิตสมบูรณ์ไปก่อน