ศึกฟุตบอลกระชับมิตร เมื่อคืนวันที่ 29 มี.ค. “สิงโตคำราม” อังกฤษ เปิดรังเวมบลีย์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “ช้างดำ” ไอวอรี่โคสต์ เกมนี้ แกเรธ เซาธ์เกต กุนซือเจ้าบ้านมีการโรเตชั่นนักเตะหลายตำหน่งเพื่อพักแข้งหลัก และให้นักเตะสายเลือดใหม่ลงสนาม โดยแดนกลางให้ จูด เบลลิ่งแฮม กับ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ลงไปคุมเกมร่วมกับ ดีแคลน ไรซ์ และให้ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ลงไปยืนเป็นกองหน้าเพื่อประสานงานกับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ แจ็ค กรีลิช ด้านทีมเยือนของกุนนซือ ปาทริช โบแมลล์ ให้พวกตัวหลักที่ค้าแข้งในยุโรปลงสนามเป็นตัวจริงเกือบทั้งหมด นำทัพโดย เอริค ไบญี่, ฌอง มิเชล เซรี, ฟรองค์ เคสซี่, นิโกลาส์ เปเป้ และ เซบาสเตียน อัลแลร์
ในช่วงครึ่งแรก อังกฤษ ออกนำไปก่อน 2 ประตูจาก โอลลี่ วัตกิ้นส์ ในนาที 30 และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ในนาที 45 โดยทีมเยือนเหลือผู้เล่น 10 คนด้วย เนื่องจาก แซร์จ ออริเยร์ โดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจกสนามในนาที 40 เข้าสู่ครึ่งหลัง เจ้าบ้านมายิงเพิ่มได้อีกเม็ดตอนช่วงท้ายเกมจาก ไทโรน มิงส์ ในช่วงทดเจ็บไปแล้ว 3 นาที หมดเวลาการแข่งขัน อังกฤษ เป็นฝ่ายชนะ 3-0 และจะกลับมาลงเล่นเกมระดับชาติอีกครั้งในนัดประเดิมสนามยูฟ่า เนชั่นส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม บุกไปเยือน ฮังการี ในช่วงเดือน มิ.ย.กันต่อไป
หลังจบเกม แกเรธ เซาธ์เกต กุนซือ “สิงโตคำราม” เอ่ยปากชม 4 นักเตะที่ได้ให้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริง และทำผลงานกันได้ดีทุกคนเลยด้วย ไม่ว่าจะเป็น โอลลี่ วัลกิ้นส์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ไทโรน มิงส์ รวมถึง แจ็ค กรีลิช โดยเฉพาะผลงานของ 3 รายแรกที่ยิงประตูได้คนละลูกด้วย โดยยอมรับว่าเป็นเพราะทีมเยือนเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนตั้งแต่ช่วงท้ายเกมด้วย ทำให้ทีมของเขาเล่นกันได้ง่ายขึ้น จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ในช่วงครึ่งแรกเอาไว้ได้ทั้งหมดเลย พร้อมกับกล่าวตำหนิแฟนบอลที่ส่งเสียงโห่ไล่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ในช่วงระหว่างเกมด้วย แม้ว่ากองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลกจะทำผลงานในเกมระดับสโมสรได้แบบน่าผิดหวัง แต่ว่าโชว์ฟอร์มในระดับชาติได้ดีเสมอ จึงควรที่จะให้กำลังใจกันมากกว่า