ศึกฟุตบอลกระชับมิตร เมื่อคืนวันที่ 29 มี.ค. “ตราไก่” ฝรั่งเศส เปิดรังสต๊าด ปิแอร์-โมรัว ต้อนรับการมาเยือนของ แอฟริกาใต้ เกมนี้ ดิดิเยร์ เดสชองส์ กุนซือเจ้าบ้านตัดสินใจให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าตัวเก่งทีเพิ่งหายป่วยกลับมาประสานแนวรุกร่วมกับ อองตวน กรีซมันน์ และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ด้านทีมเยือนของกุนซือ อูโก้ บรอส ให้พวกแข้งหลักลงสนามหลายคนเลย นำทัพโดย บองโกคูห์เล่ ฮองวาเน่, โมโธมี่ เอ็มวาลา, เตโบโฮ โมโคเอน่า และ ไลล์ ฟอสเตอร์
ในช่วงครึ่งแรก “ตราไก่” ออกนำไปก่อน 2 ประตูจาก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ในนาที 23 และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ในนาที 34 เข้าสู่ครึ่งหลัง เจ้าบ้านยิงเพิ่มได้อีก 3 เม็ดจาก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซัดเบิ้ลเป็นลูกที่ 2 ของตัวเองจากการสังหารจุดโทษในนาที 76, วิสเซม เบน เยดแดร์ ในนาที 82 และ มัตเตโอ เก็นดูซี่ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไปแล้ว 2 นาที ส่วน แอฟริกาใต้ เหลือผู้เล่น 10 คน เนื่องจาก คูลิโซ่ มูเดา โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนาที 84 หมดเวลาการแข่งขัน ฝรั่งเศส เป็นฝ่ายชนะ 5-0 และจะกลับมาลงเล่นเกมระดับชาติอีกครั้งในเกมประเดิมสนามยูฟ่า เนชั่นส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เปิดบ้านต้อนรับ เดนมาร์ก ในช่วงเดือน มิ.ย.กันต่อไป
หลังจบเกม ดิดิเยร์ เดสชองส์ กุนซือ “ตราไก่” ชื่นชมลูกทีมที่เล่นกันได้ดีหลายคน โดยเฉพาะพวกตัวหลักในแนวรุก ซึ่งรวมถึง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าตัวเก่งที่หายป่วยแล้วกลับมายิงได้ 2 ลูกเลยด้วย พร้อมกับเอ่ยปากชมพวกนักเตะสายเลือดใหม่ที่ได้ให้โอกาสลงสนามในนัดนี้ ไม่ว่าจะเป็น โฌราธาน โกลล์, มัตเตโอ เก็นดูซี่, มุสซ่า ดิอาบี้ และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และสามารถตอบแทนด้วยการทำผลงานได้น่าประทับใจมากๆ เลยด้วย
ด้าน คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ตั้งเป้าแบบมองการณ์ไกล เพราะว่าหวังที่จะขึ้นแท่นเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมลูกหนังเมืองน้ำหอม เพื่อทุบสถิติของ เธียร์รี่ อองรี ตำนานกองหน้ารุ่นพี่ที่ได้จารึกเอาไว้ด้วยจำนวน 51 ลูก โดยตอนนี้ดาวเตะวัย 23 ปียิงให้ทีมบ้านเกิดไปแล้ว 26 ประตูจากการลงสนาม 54 นัด นับตั้งแต่เริ่มลงสนามในนามทีมชาติเมื่อปี 2017 เป็นต้นมา