ศึกฟุตบอลกระชับมิตร เมื่อคืนวันที่ 29 มี.ค. “กังหันสีส้ม” ฮอลแลนด์ เปิดรังโยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า ต้อนรับการมาเยือนของ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี เกมนี้ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือเจ้าบ้านมีการปรับทัพบางตำแหน่ง โดยแนวรุกให้ ดอนเยลล์ มาเลน ลงไปประสานสานกับ สตีเฟ่น เบอร์ไกส์ และ เมมฟิส เดปาย ส่วนทีมเยือนของกุนซือ ฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิค ตัดสินใจให้ โธมัส มุลเลอร์ กับ เลรอย ซาเน่ กลับมาช่วยแนวรุกอีกครั้งเพื่อประสานงานกับ ติโม แวร์เนอร์ และ ไค ฮาเวิร์ตซ์
ในช่วงครึ่งแรก “อินทรีเหล็ก” ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก โธมัส มุลเลอร์ ในช่วงทดเจ็บไปแล้วหนึ่งนาที เข้าสู่ครึ่งหลัง “กังหันสีส้ม” เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าตามเสียงเชียร์ของแฟนบอลในสนาม และสามารถตามตีเจ๊าได้จากตัวสำรอง นั่นก็คือ สตีเว่น เบิร์กไวจ์น ในนาที 68 หมดเวลาการแข่งขัน เสมอ 1-1 สำหรับนัดต่อไป เยอรมนี และจะกลับมาลงเล่นเกมระดับชาติอีกครั้งในนัดประเดิมสนามยูฟ่า เนชั่นส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม บุกไปเยือน อิตาลี ในช่วงเดือน มิ.ย.กันต่อไป เช่นเดียวกับ ฮอลแลนด์ ซึ่งมีคิวบุกไปเยือน เบลเยี่ยม นั่นเอง
หลังจบเกม หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ “กังหันสีส้ม” พอใจผลงานของลูกทีมในเกมอุ่นแข้งทั้ง 2 เกมที่ผ่านมา เพราะเล่นกันตรงตามแผนที่วางเอาไว้ ซึ่งจริงๆ แล้วควรจะคว้าชัยได้ทั้ง 2 เกมเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่คิดว่าผลเสมอกับ เยอรมนี เป็นเรื่องที่แย่ เพราะต้องยอมรับว่าทีมประเทศเพื่อนบ้านเล่นกันได้แบบแข็งแกร่งมากๆ และสร้างความลำบากให้ทีมของเขาได้ตลอดทั้งเกม โดยเฉพาะในช่วงที่ตามไล่ตามหลัง ก่อนจะยิงประตูตามทวงคืนในช่วงครึ่งหลัง จึงรอดพ้นจากความพ่ายแพ้ไปได้
ส่วน ฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิค กุนซือ “อินทรีเหล็ก” แอบเสียดายที่ไม่สามารถเก็ยชัยได้เป็นนัดที่ 9 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เมื่อตอนที่เขาได้ก้าวเท้าเข้ามารับงานคุมทีมบ้านเกิดเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว แต่ยอมรับว่า ฮอลแลนด์ เล่นกันได้อย่างแข็งแกร่ง และแทบจะไม่เปิดโอกาสให้ยิงประตูเลยด้วยซ้ำ ยกเว้นจังหวะที่ได้ประตูขึ้นนำ ซึ่งต้องชม โธมัส มุลเลอร์ สามารถฉวยโอกาสได้อย่างยอดเยี่ยม จึงรู้สึกพอใจกับผลเสมอที่ได้รับ โดยมองว่าเป็นผลการแข่งขันที่ยุติธรรมกับทั้งสองฝ่ายด้วย