ศึกฟุตบอลนัดกระชับมิตร เมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค. “กังหันสีส้ม” ฮอลแลนด์ เปิดรังโยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า ต้อนรับการมาเยือนของ “โคนม” เดนมาร์ก เกมนี้ ฮอลแลนด์ ไม่มีกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล ติดเชื้อโควิด-19 จึงต้องให้ผู้ช่วยคุมทีมไปก่อน และแนวรุกใช้ 3 ประสาน สตีเว่น เบอร์ไกส์, สตีเว่น เบิร์กไวจ์น รวมถึง เมมฟิส เดปาย ด้านทีมเยือนของกุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมานด์ ตัดสินใจให้ คริสเตียน อิริคเซ่น ที่เพิ่งเรียกกลับมารับใช้ชาตินั่งเป็นตัวสำรอง โดยแนวรุกให้ เยสเปอร์ ลินด์สตรอม และ โยนาส วินด์ ลงไปประสานงานกับ ยุสซุฟ โพลเซ่น
ในช่วงครึ่งแรก ฮอลแลนด์ ขึ้นนำไปก่อนจาก สตีเว่น เบิร์กไวจ์น ในนาที 16 หลังจากนั้นทีมเยือนตามทวงคืนได้จาก ยานนิค เวสเตอร์การ์ด ในนาที 19 แต่เจ้าบ้านยิงเพิ่มได้อีก 2 ลูกจาก นาธาน อาเก้ ในนาที 29 และ เมมฟิส เดปาย จุดโทษในนาที 37 เข้าสู่ครึ่งหลัง “โคนม” ยิงไล่ตามมาได้อีกเม็ดจาก คริสเตียน อิริคเซ่น ในนาที 47 หลังถูกเปลี่ยนตัวลงมา และเป็นการฉลองการกลับมารับใช้บ้านเกิดอีกครั้งในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่ตอนที่เกิดอาการวูบคาสนามในศึกยูโร 2020 เมื่อช่วงกลางปีก่อน หลังจากนั้น “กังหันสีส้ม” มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะจาก สตีเว่น เบิร์กไวจ์น ซัดเบิ้ลเป็นลูกที่ 2 ในนาที 71 หมดเวลาการแข่งขัน ฮอลแลนด์ เป็นฝ่ายชนะ 4-2 สำหรับนัดต่อไป “กังหันสีส้ม” จะเตะอุ่นแข้งนัดเปิดบ้านต้อนรับ เยอรมนี ในคืนวันที่ 29 มี.ค.นี้
หลังจบเกม คริสเตียน อิริคเซ่น กองกลาง “โคนม” เปิดเผยว่ารู้สึกดีใจแบบสุดๆ เพราะได้กลับมาลงเล่นเกมระดับชาติอีกครั้ง และสามารถยิงประตูได้ด้วย จึงรู้สึกเหมือนกับเป็นได้เป็นนักฟุตบอลอีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เฝ้าคอยมาโดยตลอดเลย นับตั้งแต่ล้มหมดสติคาสนามในศึกยูโร 2020 เมื่อปีที่แล้ว หลังจากนั้นได้ถูกตรวจพบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ ทำให้ต้องห่างหายจากสังเวียนแข้งไปนานหลายเดือนเลย ก่อนที่สภาพร่างกายจะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมา และสามารถลับมาเล่นฟุตบอลที่รักมากที่สุดได้สำเร็จ จึงเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากๆ เพราะยิงประตูในนัดที่กลับมาลงเล่นเกมระดับชาติได้นั่นเอง