ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบเพลย์ออฟ โซนยุโรป รอบรองชนะเลิศ สาย ซี เมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค. “อัซซูรี่” อิตาลี แชมป์ยูโร 2020 เปิดรังสตาดิโอ เรนโซ่ บาร์เรร่า ต้อนรับ มาซิโดเนียเหนือ เกมนี้ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือเจ้าบ้านมีการปรับแนวรับ เพราะมีกองหลังได้รับบาดเจ็บ แต่ในแผงแดนกลาง รวมถึงแนวรุกยังคงจัดเต็ม โดยแผงมิดฟิลด์ให้ จอร์จินโญ่, มาร์โก แวร์รัตติ และ นิโกโล่ บาเรลล่า ลงไปคุมเกมร่วมกัน ส่วนแดนหน้าใช้ 3 ประสาน ชิโร่ อิมโมบิเล่, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ และ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ส่วนทีมเยือนของกุนซือ บลาโกย่า มิเลฟสกี้ ยังคงให้พวกแข้งหลักลงสนามทั้งหมด นำทัพโดย เอนิส บาร์ดี้, โบบัน นิโคลอฟ, อเล็กซานดาร์ ไทรคอฟสกี้, ดาร์โก้ ชูร์ลินอฟ และ มิลาน ริสตอฟสกี้
ในช่วงครึ่งแรกไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น เสมอแบบไร้สกอร์ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลังเกมทำท่าว่าจะเสมอในช่วง 90 นาที และเกือบจะได้เล่นให้ช่วงต่อเวลาพิเศษอยู่แล้ว แต่ทีมเยือนมาได้ประตูชัยจาก อเล็กซานดาร์ ไทรคอฟสกี้ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไปแล้ว 2 นาที หมดเวลาการแข่งขัน อิตาลี พลาดท่าแพ้คารังแบบช็อกโลก 0-1 จึงชวดผ่านเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2022 และเป็นการพลาดไปโชว์ฝีเท้าในเกมรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันด้วย หลังจากที่เคยแห้วมาแล้วในศึกฟุตบอลโลก 2018 จากการแพ้ สวีเดน ในรอบเพลย์ออฟนั่นเอง ส่วน มาซิโดเนียเหนือ ได้ผ่านเข้าสู่นัดชิงรอบเพลย์ออฟ สาย ซี บุกไปดวลแข้งกับ โปรตุเกส ที่เอสตาดิโอ โด ดราเกา ในคืนวันที่ 29 มี.ค.นี้ เพื่อชิงตั๋วผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายกันต่อไป
หลังจบเกม โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ “อัซซูรี่” ยอมรับว่าผิดหวังแบบสุดๆ เพราะไม่สามารถพาทีมผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2022 ได้เหมือนอย่างที่หวัง ซึ่งเหมือนกับโชคชะตาเล่นตลก หลังจากที่ได้ขึ้นสู่จุดสูงสดเมื่อตอนที่คว้าแชมป์ยูโร 2020 เมื่อกลางปีก่อน แต่ตอนนี้โชคร้ายแพ้ในเกมสำคัญในช่วงทดเวลาบาดเจ็บแบบน่าเหลือเชื่อ ส่วนเรื่องของอนาคตการคุมทีมจะบอกให้ได้รูกันในภายหลังอีกครั้ง