ศึกฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ ประจำฤดูกาล 2021/2022 เมื่อคืนวันที่ 27 ก.พ. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เผชิญหน้ากับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่เวมบลีย์ สเตเดี้ยม เกมนี้ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ชวดใช้งาน ติอาโก้ อัลคานทาร่า ได้รับบาดเจ็บตอนวอร์มอัพ ส่วนแนวรุกให้ หลุยส์ ดิอาซ ลงไปยืนล่าตาข่ายร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเม็ด ซาล่าห์ ส่วน โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ เชลซี ตัดสินใจดร็อป โรเมลู ลูกากู เป็นตัวสำรอง เพื่อให้ ไค ฮาเวิร์ตซ ลงไปยืนเป็นกองหน้าเพื่อประสานงานกับ เมสัน เมาท์ และ คริสเตียน พูลิซิช
ในช่วงครึ่งแรกยังไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น เสมอ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลังทั้งสองทีมมีโอกาสส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่เป็นจังหวะล้ำหน้าไปเสียก่อน จบ 90 นาที เสมอ 0-0 จึงต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีเพื่อตามหาผู้ชนะกันต่อไป แต่เมื่อครบ 120 นาทีไม่มีการยิงประตูเหมือนเดิม จึงเสมอกันไป 0-0 และต้องดวลจุดโทษตัดสินเพื่อตามหาแชมป์ ปรากฎว่า ลิเวอร์พูล สังหารได้แม่นยำกว่าเฉือนชนะ 11-10 ทำให้ “หงส์แดง” ครองสถิติคว้าแชมป์รายการนี้ได้มากที่สุดถึง 9 สมัยเลยทีเดียว หลังจากที่เคยเข้าชิงมาแล้วทั้งหมด 13 ครั้ง ส่วน เชลซี ทำได้ดีที่สุดเพียงรองแชมป์ และเป็นรองแชมป์ครั้งที่ 4 จากการเข้าชิงทั้งหมด 9 ครั้ง
หลังจบเกม เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ชื่นชมผลงานของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตุดาวรุ่งชาวไอริช หลังจากที่ใช้ความรู้สึกของความเป็นคนๆ หนึ่งที่ให้ลงไปเฝ้าเสาในนัดชิง และมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์คาราบาว คัพ ได้สำเร็จ โดยก่อนหน้านี้ได้ให้โอกาสลงไปยืนเฝ้าเสาในรายการนี้มาโดยตลอดอยู่แล้ว และเป็นผู้ยิงจุดโทษในช่วงดวลเป้าคนสุดท้ายให้ทีมเฉือนชัยในช่วงดวลจุดโทษตัดสินด้วย
ด้าน โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ยืนยันว่าไม่เสียใจที่วืดแชมป์คาราบาว คัพ เพราะลูกทีมทำผลงานในนัดชิงได้ดีที่สุดแล้ว และเปิดเผยสาเหตุที่ตัดสินใจเปลี่ยนตัว เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า นายด่านมือสองลงไปเซฟจุดโทษ เพราะทำผลงานการเซฟจุดโทษในช่วงฝึกซ้อมได้ดีกว่า เอดูอาร์ เมนดี้ นายทวารมือหนึ่งนั่นเอง