ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 10 ก.พ. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับการมาเยือนของ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ เกมนี้ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือเจ้าบ้านตัดสินใจให้ หลุยส์ ดิอาซ ปีกตัวใหม่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในแนวรุกเพื่อลงไปยืนล่าตาข่ายกับ ดิโอโก้ โจต้า รวมถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และให้ โมฮาเม็ด ซาล่าห์ นั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน ด้านทีมเยือนของกุนซือ เบรนแดน รอดเจอร์ส จัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม โดยแนวรุกให้ เจมส์ แมดดิสัน, อเดโมล่า ลุคแมน และ พัตสัน ดาก้า ประสานงานร่วมกัน
ในช่วงครึ่งแรก “หงส์แดง” ออกนำไปก่อนจาก ดิโอโก้ โจต้า ในนาที 34 และเจ้าบ้านมาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะในช่วงครึ่งหลังจาก ดิโอโก้ โจต้า คนเดิมในนาที 87 หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายชนะ 2-0 จึงยังคงรั้งรองจ่าฝูงต่อไป แข่ง 23 นัด มี 51 คะแนน ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 1 ที่แข่งมากกว่าหนึ่งเกมอยู่ถึง 9 แต้ม ส่วน เลสเตอร์ ไม่พบกับชัยชนะจากการลงเล่นในทุกรายการมาแล้วถึง 4 เกม จึงยังอยู่อันดับ 12 แข่ง 21 นัด มี 26 แต้ม
หลังจบเกม เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ “หงส์แดง” ยอมรับว่าลูกทีมไม่ได้เล่นเกมนี้ด้วยฟอร์มที่ดีที่สุด แต่ยังดีพอสำหรับการเก็บ 3 คะแนนเต็ม และเอ่ยปากชม 2 ผู้เล่นในแนวรุก นั่นก็คือ ดิโอโก้ โจต้า กับ หลุยส์ ดิอาซ ซึ่งให้ความเร็วฝ่าแนวรับของทีมเยือนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ โจต้า ซึ่งยังคงยิงประตูได้แบบต่อเนื่อง และเกมนี้เหมาคนเดียวทั้ง 2 ลูกเลยด้วย ส่วนในรายของ ดิอาซ แม้จะได้ประเดิมสนามในศึกพรีเมียร์ลีกเป็นตัวจริงนัดแรก แต่ไม่มีอาการตื่นสนามให้เห็นเลย จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถไปได้สวยอย่างแน่นอน
ด้าน เบรนแดน รอดเจอร์ส กุนซือ เลสเตอร์ ยังคงพอใจผลงานของลูกทีมในภาพรวม เพราะยังคงเล่นกันแบบเต็มที่ แต่ยังมีบางจุดที่ต้องแก้ไข และพัฒนากันต่อไป โดยเฉพาะในแนวรุกที่จะต้องพยายามสร้างสรรค์โอกาสให้ได้มากกว่านี้ เพื่อจะได้กลับมาคว้าชัยให้ได้อีกครั้ง ซึ่งจะต้องกลับไปช่วยกันทำงานหนักให้มากกว่าเดิมด้วย