ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เมื่อคืนวันที่ 8 มี.ค. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน หลังจากนัดแรกบุกไปชนะมาได้ก่อน 2-0 เกมนี้ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือเจ้าบ้านยังคงให้พวกแข้งหลักลงสนามทั้งหมด โดยแนวรุกให้ ดิโอโก้ โจต้า กลับมาประะสานงานกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเม็ด ซาล่าห์ ส่วนทีมเยือนของกุนซือ ซิโมเน่ อินซากี้ จัดทัพใหญ่ลงสนามเพื่อพลิกกลับมาเป็นฝ่ายเข้ารอบ โดยแนวรุกให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ อเล็กซิส ซานเชซ
ในช่วงครึ่งแรกไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น เสมอ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง “งูใหญ่” ออกนำไปก่อนจาก เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ในนาที 61 หลังจากนั้นทีมเยือนเหลือ 10 คน เนื่องจาก อเล็กซิส ซานเชซ โดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนามในนาที 63 แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะมีโอกาสได้ประตูแบบจะๆ ถึง 2 ครั้ง แต่ว่า โมฮาเม็ด ซาล่าห์ กลับไร้โชคจากการซัดไปชนเสาทั้งหมดเลย หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายแพ้ 0-1 แต่เมื่อรวมผล 2 นัดเป็นฝ่ายชนะ 2-1 จึงได้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปแบบหวุดหวิด
หลังจบเกม เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ “หงส์แดง” ไม่พอใจผลงานของลูกทีมที่โชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะเรื่องของการเพรสซิ่งที่ทำได้ไม่ดีเลย และเอ่ยปากชื่นชม อินเตอร์ มิลาน ซึ่งสร้างปัญหาให้กับทีมของเจาได้ตลอดทั้งเกม เพราะเล่นด้วยความมุ่งมั่นมากกว่าลูกทีมของเขาอย่างเห็นได้ชัด แต่ยอมรับว่าเสียดายที่พลาดโอกาสได้ประตูจาก โมฮาเม็ด ซาล่าห์ ถึง 2 ลูกจากจังหวะที่ยิงไปชนเสานั่นเอง
ด้าน ซิโมเน่ อินซากี้ กุนซือ “งูใหญ่” ยอมรับว่าเสียใจที่้ต้องกระเด็นตกรอบ เพราะสู้กับทีมเจ้าบ้านได้แบบสูสี และเป็นฝ่ายบุกไปเก็บชัยชนะได้ด้วย แต่เป็นเพราะว่าพลาดท่าแพ้คาบ้านจากนัดแรกมาก่อน จึงชวดโอกาสพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายเข้ารอบไปแบบน่าเสียดายเหลือเกิน