ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 16 ธ.ค. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล นัดนี้ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ไม่มี 2 ตัวหลักในแนวรับ ฟาบินโญ่ กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ติดเชื้อโควิด-19 ช่วงก่อนเกม แต่แนวรุกยังคงใช้ 3 ประสาน ดิโอโก้ โจต้า, โมฮาเม็ด ซาล่าห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ส่วนทีมเยือนของกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว ตัดสินใจดร็อป คัลลัม วิลสัน เพื่อให้ อัลแล็ง แซงต์ มักซิแม็ง ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ โจลินตอน
ในช่วงครึ่งแรกเริ่มเกมไปเพียง 7 นาที “สาลิกาดง” ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก จอนโจ้ เชลวี่ย์ หลังจากนั้น “หงส์แดง” เร่งเครื่องยิงแซง 2 ประตูรวดจาก ดิโอโก้ โจต้า ในนาที 21, โมฮาเม็ด ซาลาห์ ในนาที 25 จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ออกนำ 2-1 เข้าสู่ครึ่งหลังเจ้าถิ่นมาได้ประตูปิดท้ายจาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในนาที 87 หมดเวลาการแข่งขัน “หงส์แดง” เป็นฝ่ายชนะ 3-1 ยังคงรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงต่อไป แข่ง 17 นัด มี 40 คะแนน ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงแบบติดๆ เพียงแต้มเดียวเท่านั้น ส่วน นิวคาสเซิ่ล ยังคงอยูรองบ๊วยอันดับ 19 แข่ง 17 นัด มี 10 แต้ม
ขณะที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทำได้เพียงแบ่งแต้มจากเกมเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ เสมอ “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน 1-1 โดยนัดนี้ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือเจ้าถิ่นปรับแนวรุกไม่มีชื่อของ 2 กองหน้า โรเมลู ลูกากู กับ ติโม แวร์เนอร์ แม้แต่ตัวสำรอง จึงตัดสินใจให้ เมสัน เมาท์, ฮาคิม ซีเย็ค และ คริสเตียน พูลิซิช เป็น 3 ประสานงานในแดนหน้า
ในช่วงครึ่งแรกไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้นเสมอแบบไร้สกอร์ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง “สิงโตน้ำเงินคราม” ได้ประตูออกนำไปก่อนจาก เมสัน เมาท์ ในนาที 70 แต่ทีมเยือนไม่ยอมแพ้ตามตีเจ๊าได้จาก จาร์รัด แบรนธ์เวต ในนาที 74 หมดเวลาการแข่งขันลงเอยด้วยเสมอ 1-1 ทำให้ เชลซี ยังคงรั้งอันดับ 3 เหมือนเดิม แข่ง 17 นัด มี 37 คะแนน ตามหลัง “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงห่างเป็น 4 คะแนน ส่วน เอฟเวอร์ตัน อยู่อันดับ 14 แข่ง 17 นัด มี 19 คะแนน
ส่วนคู่ระหว่าง เลสเตอร์ เปิดรังคิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม พบกับ สเปอร์ส ในช่วงคืนวันเดียวกันต้องเลื่อนการแข่งขัน เพราะมีปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั่นเอง
สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันที่ 16 ธ.ค.
เชลซี เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1
ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-1