คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2
อาร์เซนอล VS ลิเวอร์พูล
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
เวลา : 02.45 น.
ผลนัดแรก : ลิเวอร์พูล เสมอ อาร์เซนอล 0-0
อาร์เซนอล
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
คาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 5-1 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ นอริช 5-0 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2 (เหย้า)
เอฟเอ คัพ รอบ 3 : แพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรตส์ 0-1 (เยือน)
คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก : เสมอ อาร์เซนอล 0-0 (เหย้า)
มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ “ปืนใหญ่” จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่บุกไปเสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 ในศึกคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก หลังจากที่ไม่ได้ลงสนนามมาแล้วหนึ่งสัปดาห์ เพราะถูกเลื่อนเกมฟาดแข้งจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั่นเอง แม้จะมีนักเตะขาดหายไปหลายคน แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายราย เพื่อลุ้นบุกไปเก็บชัยแล้วตบเท้าผ่านเข้ารอบสู่รอบชิงชนะเลิศไปเลย แนวรับจะให้ ร็อบ โฮลดิ้ง ลงไปยืนคู่กับ กาเบรียล มากัลเญส แดนกลางไม่มี กรานิท ชาก้า ติดโทษแบน จึงน่าจะขยับ เบน ไวท์ ขึ้นไปคุมเกมร่วมกับ อัลเบิร์ต แซมบี้ โลกองก้า ส่วนแนวรุกไม่น่าจะได้ มาร์ติน โอเดการ์ด กลับมาช่วยทีมเพราะเพิ่งฟื้นตัวจากโควิด แต่น่าจะได้ บูกาโย่ ซาก้า ฟิตกลับมาช่วยทำเกมริมเส้นคนละฝั่งกับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และพร้อมให้ อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ ประสานงานกับ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ กองหน้าตัวเป้า
รายชื่อ 11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-4-1-1
ผู้รักษาประตู : อารอน แรมส์เดล
แนวรับ : คาลัม แชมเบอร์ส, ร็อบ โฮลดิ้ง, กาเบรียล มากัลเญส, คีแรน เทียร์นีย์
แดนกลาง : บูกาโย่ ซาก้า, เบน ไวท์, อัลเบิร์ต แซมบี้ โลกองก้า, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
แนวรุก : อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์
กองหน้า : เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์
ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ เลสเตอร์ 0-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ เชลซี 2-2 (เยือน)
เอฟเอ คัพ รอบ 3 : ชนะ ชรูว์สบิวรี่ 4-1 (เหย้า)
คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก : เสมอ อาร์เซนอล 0-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0 (เหย้า)
เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ “หงส์แดง” จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เปิดบ้านไล่ต้อน เบรนท์ฟอร์ด 3-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก แม้จะขาดนักเตะหน้าเดิมๆ ที่หายไปตามเหตุผลต่างๆ แต่ยังพร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนามเป็นตัวจริงเหมือนเดิม เพื่อลุ้นบุกไปเก็บชัยแล้วตบเท้าผ่านเข้ารอบสู่รอบชิงชนะเลิศไปเลย แนวรับจะให้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ลงไปยืนคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แดนกลางน่าจะให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน คุมเกมร่วมกับ ฟาบินโญ่ และ เคอร์ติส โจนส์ แนวรุกยังคงไร้ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเม็ด ซาล่าห์ เดินทางกลับไปรับใช้บ้านเกิดในศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ จึงน่าจะให้ ทาคูมิ มินามิโนะ ลงไปประสานงานร่วมกับ ดิโอโก้ โจต้า และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
รายชื่อ 11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : อลิสซอน เบ็คเกอร์
แนวรับ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
แดนกลาง : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, เคอร์ติส โจนส์
กองหน้า : ดิโอโก้ โจต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ทาคูมิ มินามิโนะ
ความน่าจะเป็น
เพิ่งเจอปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 เล่นงานอีกคราว ทำให้ อาร์เซนอล ไม่ต้องลงเตะเกมเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้พร้อมกลับมาลงสนามฟาดแข้งอีกครั้ง เพราะนักเตะทะยอยหายป่วยกลับมาลงเล่นได้แล้ว ส่วน ลิเวอร์พูล ยังคงไร้ผู้เล่นหน้าเดิมๆ โดยเฉพาะ นาบี้ เกอิต้า, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเม็ด ซาล่าห์ ที่ติดภาระกิจรับใช้ชาติ แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายราย คาดว่า “หงส์แดง” น่าจะเป็นฝ่ายบุกไปเก็บชัยเพื่อผ่านเข้าชิงได้สำเร็จ
ผลที่คาด : อาร์เซนอล แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
