ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับการมาเยือนของ “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด เกมนี้ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือเจ้าบ้านยังคงให้พวกแข้งหลักลงสนามหลายคน แม้จะมีคิวลงเตะนัดสำคัญในนัดชิงคาราบาว คัพ รออยู่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ก็ตาม โดยแนวรุกใช้ 3 ประสาน หลุยส์ ดิอาซ, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเม็ด ซาล่าห์ ด้านทีมเยือนของกุนซือ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ตัดสินใจขยับ ดาเนี่ยล เจมส์ ขึ้นไปสวมบทเป็นตัวจริง และให้ ราฟินญ่า กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงเพื่อประสานแนวรุกกับ โรดริโก้ โมเรโน่ และ แจ็ค แฮร์ริสัน
ในช่วงครึ่งแรก “หงส์แดง” ออกนำไปก่อนถึง 3-0 จากผลงานของ โจเอล มาทิป ในนาที 30 และ โมฮาเม็ด ซาล่าห์ ซัดจุดโทษ 2 ลูกในนาที 15, 35 เข้าสู่ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ยิงเพิ่มได้อีก 3 เม็ดจาก ซาดิโอ มาเน่ ซัดเบิ้ลเหมาคนเดียว 2 ประตูในนาที 80 และช่วงทดเวลาทดเจ็บไปแล้วหนึ่งนาที ก่อนจะปิดท้ายด้วย เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ในช่วงทดเจ็บไปแล้ว 3 นาที
หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายชนะแบบขาดลอยถึง 6-0 จึงยังรั้งรองจ่าฝูง แข่ง 26 นัด มี 60 คะแนน ไบ่ตามหลัง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงเหลือเพียง 3 คะแนนเท่านั้น ส่วน ลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่อันดับ 15 แข่ง 25 นัด มี 23 คะแนน
ด้าน “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ พลาดท่าบุกไปแพ้ เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟ มัวร์ 0-1 โดยเกมนี้ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือทีมเยือนตัดสินใจให้ เดยัน คูลูเชฟสกี้ ลงไปประสานแนวรุกร่วมกับ ซน ฮึง มิน และ แฮร์รี่ เคน ส่วนเจ้าบ้านของกุนซือ ฌอน ไดซ์ ยังคงให้พวกแข้งหลักลงสนามหลายคนเลย ไม่ว่าจะเป็น เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, แจ็ค คอร์ก. จอช บราวน์ฮิลล์ และ วูต เวกฮอร์ทส
ในช่วงครึ่งแรกไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น เสมอ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง เบิร์นลีย์ มาได้ประตูชัยจาก เบน มี ในนาที 71 หมดเวลาการแข่งขัน ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ เป็นฝ่ายแพ้ 0-1 จึงยังคงอยู่อันดับ 8 แข่ง 24 นัด มี 39 คะแนน ส่วน เบิร์นลีย์ ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 18 แข่ง 23 นัด มี 20 คะแนน
สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
เบิร์นลีย์ ชนะ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 1-0
วัตฟอร์ด แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-4
ลิเวอร์พูล ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 6-0