พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล VS เลสเตอร์
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 02.45 น.
ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก : เสมอ อาร์เซนอล 0-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0 (เหย้า)
คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 : ชนะ อาร์เซนอล 2-0 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ คริสตัล พาเลซ 3-1 (เยือน)
เอฟเอ คัพ รอบ 4 : ชนะ คาร์ดิฟฟ์ 3-1 (เหย้า)
เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ “หงส์แดง” จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เปิดบ้านชนะ คาร์ดิฟฟ์ 3-1 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 เพื่อลุ้นเก็บชัยไล่ตามจ่าฝูงต่อไป หลังไม่พบกับความพ่ายแพ้มาแล้วถึง 7 เกมในทุกรายการ โดยตอนนี้ยังคงรั้งรองจ่าฝูง แข่ง 22 นัด มี 48 คะแนน ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ ทีมอันดับ 1 บนหัวตารางคะแนนอยู่ถึง 12 แต้ม จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนาม แม้จะมีบางคนที่ยังไม่พร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงก็ตาม แนวรับจะให้ โจเอล มาทิป ยืนคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แดนกลางยังคงวาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน คุมเกมร่วมกับ ฟาบินโญ่ แนวรุกไม่มี ซาดิโอ มาเน่ ได้พักฉลองแชมป์แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ และคาดว่า หลุยส์ ดิอาซ น่าจะนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน แต่น่าจะให้ โมฮาเม็ด ซาล่าห์ ที่เพิ่งกลับมาจากรับใช้บ้านเกิดจะได้กลับมาเป็นตัวจริงเพื่อประสานงานกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ รวมถึง ดิโอโก้ โจต้า
รายชื่อ 11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : อลิสซอน เบ็คเกอร์
แนวรับ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาทิป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, นาบี้ เกอิต้า
แดนกลาง : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, เคอร์ติส โจนส์
กองหน้า : อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ดิโอโก้ โจต้า
เลสเตอร์
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (เหย้า)
เอฟเอ คัพ รอบ 3 : ชนะ วัตฟอร์ด 4-1 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ สเปอร์ส 2-3 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ ไบรท์ตัน 1-1 (เหย้า)
เอฟเอ คัพ รอบ 4 : แพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-4 (เยือน)
เบรนแดน รอดเจอร์ส กุนซือ “จิ้งจอกสยาม” จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่บุกไปแพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-4 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยอีกครั้ง หลังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นมาแล้ว 3 เกมในทุกรายการ โดยตอนนี้อยู่อันดับ 10 แข่ง 20 นัด มี 26 คะแนน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายคน แนวรับไม่มี เวสลีย์ โฟฟาน่า กับ จอนนี่ อีแวนส์ ได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมขยับ ดาเนียล อมาร์ตี้ ไปยืนคู่กับ ชักลาร์ โซยุนชู แดนกลางน่าจะให้เด็กปั้น เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ลงไปคุมเกมร่วมกับ ยูริ ตีเลอมองส์ และ วิลฟรีด เอ็นดิดี้ แนวรุกไร้ เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าจอมเก๋าเจอโรคเดี้ยงเล่นงาน จึงน่าจะให้ พัตสัน ดาก้า ลงไปยืนเป็นกองหน้าคู่กับ เคเลชี่ อีเฮียนาโช่
รายชื่อ 11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-3-1-2
ผู้รักษาประตู : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล
แนวรับ : ริคาร์โด้ เปไรร่า, ดาเนียล อมาร์ตี้, ชักลาร์ โซยุนชู, เจมส์ จัสติน
แดนกลาง : ยูริ ตีเลอมองส์, วิลฟรีด เอ็นดิดี้, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์
แนวรุก : เจมส์ แมดดิสัน
กองหน้า : พัตสัน ดาก้า, เคเลชี่ อีเฮียนาโช่
ความน่าจะเป็น
แม้จะเคยพลาดท่าบุกไปแพ้ด้วยสกอร์ 0-1 จากการพบกันในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปลายปีก่อน แต่ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ยังอยู่ในช่วงฟอร์มแจ่ม เพราะเก็บชัยได้แบบรัวๆ ซึ่งตรงกันข้ามกับ เลสเตอร์ ที่ยังตามหาฟอร์มเก่งไม่เจอ และไม่พบกับชัยชนะมาแล้วหลายเกม แถมยังมีนักเตะขาดหายไปหลายคนอีกด้วย คาดว่า “หงส์แดง” น่าจะคว้าชัยในถิ่นตัวเองเอาไว้ได้
ผลที่คาด : ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ 2-0
โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
02.45 น. ลิเวอร์พูล VS เลสเตอร์
02.45 น. วูล์ฟแฮมป์ตัน VS อาร์เซนอล