ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดต้อนรับปีใหม่เมื่อคืนวันที่ 1 ม.ค. “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ บุกไปเยือน “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เกมนี้ “เป๊ป” โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือทีมเยือนปรับทัพบางตำแหน่ง โดยแนวรุกให้ กาเบรียล เชซุส ลงไปประสานงานกับ ริยาด าห์เรซ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ด้านเจ้าบ้านไร้ มิเกล อาร์เตต้า ติดเชื้อโควิด-19 จึงต้องให้ผู้ช่วย นั่นก็คือ อัลเบิร์ต สตอยเฟนเบิร์ก ยืนคุมทีมแทน และทัพใหญ่ลงสนามเหมือนเดิม นำทีมโดย บูกาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด และ อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์
ในช่วงครึ่งแรก อาร์เซนอล ได้ประตูออกนำไปก่อนจาก บูกาโย่ ซาก้า ในนาที 31 จบ 45 นาที “ปืนใหญ่” ขึ้นนำ 1-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ ตามตีเจ๊าได้จากลูกจุดโทษของ ริยาด มาห์เรซ ในนาที 57 หลังจากนั้นเข้าบ้านเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เนื่องจาก กาเบรียล มากัลเญส โดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนามในนาที 59 และเป็นฝั่งทีมเยือนพลิกยิงแซงชนะในท้ายเกม โดยได้ประตูชัยจาก โรดรี้ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไปแล้ว 3 นาที หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯ ซิตี้ เป็นฝ่ายเฉือนชนะ 2-1 ยังคงรั้งจ่าฝูงต่อไป แข่ง 21 นัด มี 53 คะแนน นำหน้า “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมอันดับ 2 ห่างถึง 11 แต้มเลยทีเดียว ส่วน อาร์เซนอล อยู่อันดับ 4 แข่ง 20 นัด มี 35 คะแนน
หลังจากเกม โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” เอ่ยปากยอมรับว่า “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เล่นได้ดีกว่า และรู้ดีว่าเจ้าบ้านกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มแรงด้วย แต่ทีมของเขามีโชคช่วยเอาไว้ โดยอาศัยความผิดพลาดของทีมคู่แข่งด้วย จึงสามารถเก็บชัยเอาไว้ได้แบบหืดจับ
ขณะที่ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส เก็บชัยได้แบบหืดจับเหมือนกัน หลังบุกไปเฉือนชนะ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด ได้วิคาเรจ โร้ด 1-0 โดยในช่วงตลอด 90 นาทีไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น และเกมทำท่าว่าจะลงเอยด้วยผลเสมออยู่แล้ว แต่ทีมเยือนมาได้ประตูชัยช่วงท้ายเกมจาก ดาวินซอน ซานเชซ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไปแล้วถึง 6 นาที หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือนบุกไปชนะ 1-0 ทำให้ สเปอร์ส ไร้พ่ายในศึกพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่ 8 ติดต่อกัน และอยู่อันดับ 6 แข่ง 18 นัด มี 33 คะแนน ส่วน วัตฟอร์ด ยังอยู่ในโซนท้ายตารางอันดับ 17 แข่ง 18 นัด มี 13 คะแนน
สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
อาร์เซนอล แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2
วัตฟอร์ด แพ้ สเปอร์ส 0-1
คริสตัล พาเลซ แพ้ เวสต์แฮม 2-3