ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 26 ก.พ. “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ บุกไปเยือน “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสัน ปาร์ค เกมนี้ “เป๊ป” โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือทีมเยือนปรับเปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่ง โดยแนวรับขยับ อายเมริก ลาปอร์ก ไปยืนเป็นแบ็กซ้าย ส่วนแนวรุกให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ขยับขึ้นไปประสานงานกับ ฟิล โฟเด้น และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ด้านเจ้าบ้านของกุนซือ แฟรงค์ แลมพาร์ด ให้พวกแข้งหลักลงสนามเกือบทั้งหมด โดยแดนกลางให้ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ลงไปประสานงานกับ อเล็กซ์ อิโวบี้ และวาง ริชาร์ลิซอน เป็นกองหน้าตัวเป้า
ในช่วงครึ่งแรกไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น เสมอ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง “เรือใบสีฟ้า” มาได้ประตูชัยจาก ฟิล โฟเด้น ในนาที 81 หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายเฉือนชนะ 1-0 จึงยังคงรั้งจ่าฝูง แข่ง 27 นัด มี 66 คะแนน นำหน้า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 2 ที่ลงแข่งน้อยกว่าหนึ่งเกมเพิ่มเป็น 6 คะแนนได้อีกครั้ง
หลังจบเกม โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” เอ่ยปากชมผลงานของลูกทีมในช่วงครึ่งหลัง แม้จะไม่ได้คุมเกมแบบเบ็ดเสร็จ แต่ลูกทีมยังคงพร้อมพร้อมทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ จึงมีส่วนช่วยให้ทีมบุกเก็บชัยจากเกมที่ยากอีกหนึ่งนัดเอาไว้ได้ ซึ่งเป็นชัยชนะที่สำคัญต่อการลุ้นแชมป์เลยด้วย และได้เอ่ยถึงเรื่องลุ้นแชมป์ด้วยว่ายังเหลือโปรแกรมให้ลงสนามอีกถึง 11 เกม แม้จะดูเหมือนว่าอีกยาวไกลอยูพอสมควร แต่ว่พร้อมกำชับให้ลูกทีมเก็บชัยชนะให้ได้ทั้งหมด เพื่อจะได้คุมสถานการณ์เอาไว้ในมือต่อไป
ด้าน แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือ “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” สุดฉุนการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน และ VAR ที่ไม่ให้จุดโทษจากจังหวะที่แขนของ โรดรี้ กองกลางทีมเยือนโดนบอลในกรอบเขตโทษช่วงท้ายเกม โดยเปรียบเปรยว่าลูกสาวที่มีอายุเพียง 3 ขวบยังดูรู้เลยว่ามันคือจุดโทษแน่ๆ
สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
ลีดส์ ยูไนเต็ด แพ้ สเปอร์ส 0-4
แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ วัตฟอร์ด 0-0
คริสตัล พาเลซ เสมอ เบิร์นลีย์ 1-1
เบรนท์ฟอร์ด แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-2
ไบรท์ตัน แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-2
เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1