ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ย. “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ เปิดรังอิติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน เกมนี้ “เป๊ป” โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือเจ้าบ้านตัดสินใจให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงไปประสานงานในแนวรุกร่วมกับ ฟิล โฟเด้น และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ส่วนทีมเยือนของกุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ ยังคงให้ ริชาร์ลิซอน ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า
ในช่วงท้ายครึ่งแรก “เรือใบสีฟ้า” ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ในนาที 44 ทำให้หลังจบ 45 นาทีแรก แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 1-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง เจ้าบ้านยิงเพิ่มได้อีก 2 ลูกจาก โรดรี้ ในนาที 55 และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ในนาที 86 หมดเวลาการแข่งขัน “เรือใบสีฟ้า” เป็นฝ่ายชนะ 3-0 พร้อมกับแซงหน้า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ขยับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง มี 26 คะแนนจากการลงเตะไปแล้ว 12 นัด ตามหลัง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมจ่าฝูงเพียง 3 แต้ม ส่วน เอฟเวอร์ตัน อยู่อันดับ 11 มี 15 คะแนนจากการลงเตะไปแล้ว 12 นัด
หลังจบเกม “เป๊ป” โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” เอ่ยปากชมลูกทีมที่เล่นกันด้วยความมุ่งมั่น และต้องใช้ความอดทนในการเผชิญหน้ากับทีมคู่แข่งที่มาเล่นแบบเน้นเกมรับเป็นพิเศษ ก่อนจะช่วยกันพาทีมคว้าชัยได้สำเร็จ และได้หวนกลับขึ้นไปรั้งอันดับ 2 ไล่จี้ทีมจ่าฝูงแบบกระชั้นชิดกันต่อไป
ส่วนอีกคู่ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส เปิดรังท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด โดย อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือเจ้าบ้านใช้ 3 ประสานในแดนหน้าวาง ซน ฮึง มิน ยืนล่าตาข่ายร่วมกับ ลูคัส มูร่า และ แฮร์รี่ เคน
เกมนี้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก ดาเนียล เจมส์ ในนาที 44 แต่เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง สเปอร์ส ยิงแซง 2 ลูกรวดจาก ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก ในนาที 58 และ เซร์คิโอ เรกีลอน ในนาที 69 ทำให้ “ไก่เดือยทอง” ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 7 แข่ง 12 นัด มี 19 คะแนน ส่วน “ยูงทอง” ยังอยู่ในโซนตารางอยู่อันดับ 17 แข่ง 12 นัด มี 11 แต้ม