ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนวันที่ 15 ก.พ. “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน ที่เอสตาดิโอ โจเซ่ อัลวาลาด เกมนี้ “เป๊ป” โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีการปรับทัพบางตำแหน่ง แต่ยังให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงหลายคนเลย โดยแนวรับให้ จอห์น สโตนส์ ลงไปยืนคู่กับ รูเบน ดิอาส ขณะที่แดนกลางยังคงจัดเต็มให้ โรดรี้ คุมเกมร่วมกับ เควิน เดอ บรอยน์ ส่วนแนวรุกวาง ฟิล โฟเด้น ลงไปประสานงานกับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ ริยาด มาห์เรซ ด้านเจ้าบ้านของกุนซือ รูเบน อาโมริม จัดทีมชุดใหญ่ลงสนามไปเลย นำทัพโดย ปาโบล ซาราเบีย, เปโดร กอนซัลเวส และ เปาลินโญ่
ในช่วงครึ่งแรก “เรือใบสีฟ้า” ออกนำไปก่อนแบบสุดกู่ถึง 4 ลูกจาก ริยาด มาห์เรซ ในนาที 7, แบร์นาร์โด้ ซิลวา ซัดเบิ้ลเหมา 2 เม็ดในนาที 17, 44 และ ฟิล โฟเด้น ในนาที 32 เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูปิดท้ายอีกหนึ่งประตูจาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ในนาที 58 หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายบุกไปถล่ม 5-0 เก็บชัยจากนัดแรกเอาไว้ได้ก่อน และมีโอกาสตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สูงมากเลยด้วย โดยนัดที่ 2 จะได้กลับไปเล่นที่อิติฮัด สเตเดี้ยม ในคืนวันที่ 9 มี.ค.นี้กันต่อไป
หลังจบเกม โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” สดุดีผลงานของลูกทีมที่ช่วยกันได้แบบน่าประทับใจ โดยเฉพาะในจังหวะจบสกอร์ที่ทำได้แบบเฉียบคมเหลือเกิน จึงคู่ควรกับชัยชนะนัดนี้ที่จบลงด้วยการเป็นฝ่ายด้วยสกอร์ขาดลอยไปเลย และเชื่อมั่นว่านักเตะสามารถทำผลงานได้ดีกว่านี้ได้แน่ๆ แต่จะไม่ตั้งตนอยู่ในความประมาทอย่างแน่นอน เพราะอย่าลืมว่ายังมีอีกหนึ่งเกมที่จะต้องลงสนามในเดือนหน้า
ด้าน รูเบน อโมริม กุนซือเจ้าบ้านยอมรับความพ่ายแพ้แต่อย่างดี เพราะลูกทีมของเขาสู้ทีมเยือนที่แข็งแกร่งไม่ได้เลย แต่ยังไม่ยอมถอดใจง่ายๆ โดยยืนยืนว่านัดต่อไปยังคงพร้อมสู้เต็มที่ เพื่อหวังพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายเข้ารอบ แม้จะต้องพึ่งโชคชะตาให้มีปฏิหาริย์เกิดขึ้นด้วยก็ตาม