ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 3 ม.ค. “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ประเดิมสนามเป็นนัดแรกของปีใหม่ด้วยการเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน เกมนี้ ราล์ฟ รังนิค กุนซือเจ้าบ้านตัดสินใจให้ ฟิล โจนส์ กองหลังจอมเดี้ยงกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงในรอบเกือบ 2 ปี และดร็อป บรูโน่ แฟร์นันเดส จอมทัพที่เพิ่งพ้นโทษแบนเป็นตัวสำรอง โดยให้ เอดินสัน คาวานี่ ลงไปยืนเป็นกองหน้าคู่กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ด้านทีมเยือนของ บรูโน่ ลาเก้ เลือกใช้ 3 ประสานในแนวรุก ดาเนี่ยล โปเดนซ์, ตรินเกา และ ราอูล ฆิมิเนซ ส่วนแดนกลางยังคงวาง รูเบน เนเวส ยืนคุมเกมร่วมกับ เจา มูตินโญ่
ในช่วงครึ่งแรกไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น เสมอ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โหม่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายให้เจ้าบ้านได้ด้วย แต่ ไมค์ ดีน ผู้ตัดสินเป่านกหวีดให้เป็นจังหวะล้ำหน้าไปเสียก่อน หลังจากนั้น “หมาป่า” มาได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกมจาก เจา มูตินโญ่ ในนาที 82 หมดเวลาการแข่งขัน “ปีศาจแดง” เป็นฝ่ายพ่ายคาบ้าน 0-1 ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ชวดแซงหน้า “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ขึ้นไปอยู่อันดับ 6 โดยยังคงอยู่อันดับ 7 แข่ง 19 นัด มี 31 คะแนน ส่วน วูล์ฟแฮมป์ตัน ขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 8 แข่ง 19 นัด มี 28 แต้ม
หลังจบเกม ราล์ฟ รังนิค กุนซือ “ปีศาจแดง” ถึงกับส่ายหัวไม่ปลื้มผลงานของลูกทีมนัดแพ้ต้อนรับปีใหม่ในศึกพรีเมียร์ลีก เพราะไม่สามารถเพรสซิ่งใส่ทีมคู่แข่งได้เลย และยอมรับว่า วูล์ฟแฮมป์ตัน คือทีมที่แข็งแกร่งที่สุดที่ได้เจอตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาสวมบทเป็นนายใหญ่แห่งถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เลยด้วย ทำให้โค้ชชาวเยอรมันต้องพบกับความพ่ายแพ้เป็นนัดแรกในช่วงหลังจากที่ตอบตกลงรับงานคุมทีมเมื่อตอนต้นเดือน ธ.ค.ปีก่อน
ด้าน บรูโน่ ลาเก้ กุนซือ “หมาป่า” ยักไหล่แบบไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นที่สามารถบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 42 ปีเลยด้วย เพราะมองว่าเป็นเพียงแค่อีกหนึ่งเกมธรรมดาเท่านั้นและทีมของเขาสมควรเป็นฝ่ายชนะ เนื่องจากว่าเล่นได้ดีกว่าเจ้าบ้านอย่างเห็นได้ชัดเลย