ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 12 ก.พ. “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน เกมนี้ ราล์ฟ รังนิค กุนซือเจ้าบ้านปรับแนวรุกให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงเพื่อประสานงานกับ จาดอน ซานโซ่ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ขณะที่ทีมเยือนของกุนซือ ราล์ฟ ฮาเซนฮุตเทิ่ล ยังคงให้ โอริโอล โรเมว กับ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ยืนคุมแดนกลาง ส่วนแนวรุกให้ เช อดัมส์ กับ อาร์มันโด้ โบรย่า ยืนเป็นกองหน้าคู่กัน
ในช่วงครึ่งแรก “ปีศาจแดง” ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก เจดอน ซานโช่ ในนาที 21 ทำให้เจ้าบ้านออกนำในช่วงจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว เข้าสู่ครึ่งหลัง “นักบุญ” ตามตีเจ๊าได้จาก เช อดัมส์ ในนาที 48 หลังจากนั้นไม่มีการยิงประตูเพิ่มเติม หมดเวลาการแข่งขัน เสมอ 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ชวดขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 4 โดยยังอยู่อันดับ 5 แข่ง 24 นัด มี 40 คะแนน เท่ากับ เวสต์แฮม ทีมอันดับ 4 แต่มีผลต่างประตูได้เสียน้อยกว่า 5 ลูก ส่วน เซาแธมป์ตัน อยู่อันดับ 10 แข่ง 24 นัด มี 29 แต้ม
หลังจบเกม ราล์ฟ รังนิค กุนซือ “ปีศาจแดง” ยอมรับว่าทีมของเขาโชคร้ายอีกแล้ว แม้จะทำผลงานในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกได้ดีมากๆ แต่เป็นเพราะลูกทีมขาดความนิ่งในช่วงครึ่งหลังด้วย และยังคงเจอปัญหาเดิมๆ นั่นก็คือเรื่องของเกมรับที่ปกป้องเกมสวนกลับของทีมคู่แข่งได้ไม่ดี จึงต้องก้มหน้ายอมรับผลเสมออีกหนึ่งเกม แต่ก็ต้องชมทีมเยือนที่เล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย
ขณะเดียวกัน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสของ “ปีศาจแดง” ต้องหวนกลับมาเจอสถิติสุดย่ำแย่แบบส่วนตัวอีกครั้งในรอบ 12 ปี เพราะยิงประตูไม่ได้มาแล้วถึง 6 เกมติดต่อกัน หรือนับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2022 เป็นต้นมา โดยลูกสุดท้ายที่สังหารได้คือในศึกพรีเมียร์ลีกนัดที่เปิดบ้านชนะ เบิร์นลีย์ 3-1 เมื่อปลายปีที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้เคยสอยตาข่ายไม่ได้ถึง 6 เกมซ้อนมาก่อน ซึ่งต้องย้อนกลับไปเมื่อตอนสมัยที่ค้าแข้งกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เมื่อปี 2009 โน้นเลย
สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ เซาแธมป์ตัน 1-1
เบรท์ฟอร์ด เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0
วัตฟอร์ด แพ้ ไบรท์ตัน 0-2
เอฟเวอร์ตัน ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-0
นอริช แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-4