ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 26 ธ.ค. “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มแจ่มในศึกพรีเมียร์ลีกเปิดรังอิติฮัด สเตเดี้ยม ไล่ถลุง “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ 6-3 โดย “เรือใบสีฟ้า” ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนในช่วงครึ่งแรกถึง 4 ประตูจาก เควิน เดอ บรอยน์ ในนาที 5, ริยาด มาห์เรซ ซัดจุดโทษในนาที 14, อิลคาย กุนโดกาน ในนาที 21 และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง สังหารจุดโทษเข้าไปตุงตาข่ายในนาที 25
ทว่า เลสเตอร์ มีลูกฮึดยิงไล่ตามมาในช่วงครึ่งหลัง 3 ลูกรวดจาก เจมส์ แมดดิสัน ในนาที 55, อเดโมล่า ลุคแมน ในนาที 59 และ เคเลชี อีเฮียนาโช่ ในนาที 65 หลังจากนั้นเจ้าบ้านซัดเพิ่มได้อีก 2 เม็ดจาก อายเมริก ลาปอร์ก ในนาที 69 และปิดท้ายด้วย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ซัดเบิ้ลเป็นลูกที่ 2 ของตัวเองในนาที 87 ทำให้ “เรือใบสีฟ้า” ยังคงนำโด่งเป็นจ่าฝูง แข่ง 19 นัด มี 47 คะแนน นำหน้า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 2 ที่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัดเพิ่มเป็น 6 คะแนน ส่วน เลสเตอร์ อยู่อันดับ 10 แข่ง 17 นัด มี 22 แต้ม
ด้าน “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ไม่พลาดเก็บ 3 คะแนนเต็มจากทีมบ๊วยได้แบบไม่ยากเย็นนัก หลังบุกไปถล่ม “นกขมิ้น” นอริช ถึงคาร์โรว์ โรด 5-0 โดยทีมเยือนได้ทั้ง 5 ประตูจาก บูกาโย่ ซาก้า ซัดเบิ้ลเหมา 2 ลูกในนาที 6 กับ 67, คีแรน เทียร์นีย์ ในนาที 44, อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ ซัดจุดโทษในนาที 84 และ เอมิล สมิธ โรว์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไปแล้วหนึ่งนาที ทำให้ “ปืนใหญ่” ยังคงเกาะกลุ่ม “ท็อปโฟร์” ในอันดับ 4 ต่อไป แข่ง 19 นัด มี 35 คะแนน ส่วน นอริช จมบ๊วยในอันดับ 20 เหมือนเดิม แข่ง 18 นัด มี 10 คะแนน
ส่วน “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ เก็บชัยได้แบบสุดสวย หลังเปิดรังท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ สเตเดี้ยม ไล่ต้อน คริสตัล พาเลซ 3-0 โดยได้ทั้ง 3 ประตูจากการยิงของ 3 แนวรุกในแดนหน้าคนละหนึ่งเม็ด ไล่ตั้งแต่ แฮร์รี่ เคน ในนาที 32, ลูคัส มูร่า ในนาที 34 และ ซน ฮึง มิน ในนาที 74 ส่วนทีมเยือนเหลือ 10 คนในช่วงครึ่งหลัง เนื่องจาก วิลฟรีด ซาฮา โดนใบแดงไล่ออกจากสนามตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกในนาที 37 ทำให้ สเปอร์ส ได้ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 แข่ง 16 นัด มี 29 คะแนน ส่วน คริสตัล พาเลซ อยู่อันดับ 12 แข่ง 18 นัด มี 20 คะแนน
ปิดท้ายด้วย “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ได้เฮด้วยเช่นกัน หลังบุกไปยิงแซงชนะ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ถึงถิ่นวิลล่า ปาร์ค 3-1 แม้เจ้าบ้านจะออกนำไปก่อนจาก รีซ เจมส์ นักเตะทีมเยือนทำเข้าประตูตัวเองในนาที 28 แต่หลังจากนั้น เชลซี ยิงแซง 3 ประตูรวดจาก โรเมลู ลูกากู ในนาที 56 และ จอร์จินโญ่ ซัดเบิ้ลจากการเหมาจุดโทษถึง 2 ลูกในนาที 34 และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไปแล้ว 3 นาที ทำให้ “สิงโตน้ำเงินคราม” ยังคงรั้งอันดับ 3 ต่อไป แข่ง 19 นัด มี 41 คะแนน เท่ากับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมรองจ่าฝูงที่แข่งน้อยกว่าหนึ่งเกมอยู่ 6 ลูก ส่วน แอสตัน วิลล่า อยู่อันดับ 11 แข่ง 18 นัด มี 22 แต้ม
สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
เวสต์แฮม แพ้ เซาแธมป์ตัน 2-3
แมนฯ ซิตี้ ชนะ เลสเตอร์ 6-3
นอริช แพ้ อาร์เซนอล 0-5
สเปอร์ส ชนะ คริสตัล พาเลซ 3-0
แอสตัน วิลล่า แพ้ เชลซี 1-3
ไบรท์ตัน ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-0