ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันที่ 2 มี.ค. “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ บุกไปเยือน ปีเตอร์โบโร่ ทีมบ๊วยเดอะแชมเปี้ยนชิพ ที่ลอนดอน โร้ด เกมนี้ “เป๊ป” โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือ ทีมเยือนให้พวกแข้งหลักลงสนามหลายคนเลย โดยแดนกลางให้ แฟร์นันดินโญ่ และ ฟิล โฟเด้น ลงไปคุมเกมร่วมกับ อิลคาย กุนโดกาน แนวรุกให้ แจ็ค กรีลิช กลับมาประสานงานร่วมกับ กาเบรียล เชซุส และ ริยาด มาห์เรซ ด้านเจ้าบ้านของกุนซือ แกรนท์ แม็คคานน์ ให้พวกแข้งหลักลงสนามเกือบทั้งหมด นำทัพโดย เฮย์เดน คูลสัน, ควาเม่ โปกู, ริกกี้ เจด-โจนส์ และ แซมมี่ ซโวดิชส์
ในช่วงครึ่งแรกไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น เสมอแบบไร้สกอร์ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง “เรือใบสีฟ้า” ยิงได้ 2 ประตูจาก ริยาด มาห์เรซ ในนาที 60 และ แจ็ค กรีลิช ในนาที 67 หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯ ซิตี้ เป็นฝ่ายบุกไปชนะ 2-0 ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบ 6 หรือรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
หลังจบเกม โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” เอ่ยปากชมลูกทีมทำผลงานได้ตามเป้า และชื่นชมผลงานของ ริยาด มาห์เรซ ปีกตัวเก่งเล่นฟุตบอลด้วยความสนุก แถมยังยิงประตูได้อีกแล้วด้วย พร้อมกันนี้ได้กล่าวชม แจ็ค กรีลิช ที่เพิ่งฟิตกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง และยิงประตูปิดท้ายได้ด้วย
ขณะที่ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส บุกไปเยือน “สิงห์แดง” มิดเดิ้ลสโบรช์ ที่ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม นัดนี้ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือทีมเยือนให้พวกแข้งหลักลงสนามหลายคนเลย โดยแนวรุกยังคงจัดเต็มให้ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ลงไปประสานงานกับ ซน ฮึง-มิน และ แฮร์รี่ เคน ส่วนเจ้าบ้านของกุนซือ คริส ไวล์เดอร์ จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม นำทัพโดย โจนาธาน ฮอว์สัน, มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์, นีล เทย์เลอร์ และ ดันแคน วัตมอร์
ในช่วงเวลาปกติ 90 นาที ไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น เสมอ 0-0 จึงต้องเล่นช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีเพื่อตามหาผู้ชนะ และเป็นฝ่าย มิดเดิ้ลสโบรช์ ได้ประตูชัยจาก จอช โคเบิร์น ในนาที 107 หมดเวลาการแข่งขัน สเปอร์ส พลาดท่าแพ้ช่วงต่อเวลาพิเศษ 0-1 จอดป้ายเพียงแค่รอบ 5 เท่านั้น
สรุปผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5
ปีเตอร์โบโร่ แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-2
คริสตัล พาเลซ ชนะ สโต๊ค 2-1
มิดเดิ้ลสโบรช์ เสมอ สเปอร์ส 0-0
(มิดเดิ้ลสโบรช์ ชนะช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0)