ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 15 ก.พ. “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ ไบรท์ตัน เกมนี้ ราล์ฟ รังนิค กุนซือเจ้าบ้านปรับทัพบางตำแหน่ง โดยตัดสินใจดร็อป ปอล ป็อกบา เป็นตัวสำรองเพื่อให้ เฟรด กลับมายืนคุมแดนกลาง ส่วนแนวรุกให้ แอนโธนี่ เอลังก้า ลงไปประสานงานกับ จาดอน ซานโช่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ด้านทีมเยือนของกุนซือ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ให้พวกแข้งหลักลงสนามทั้งหมด นำทัพโดย อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์, ปาสคาล โกรส, เลอันโดร ทรอสซาร์ และ นีล โมเปย์
ในช่วงครึ่งแรก “ปีศาจแดง” มีโอกาสลุ้นยิงประตูมากกว่า แต่ยังไม่มีสกอร์เกิดขึ้น เสมอ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในนาที 51 หลังจากนั้น ไบรท์ตัน เหลือผู้เล่น 10 คน เนื่องจาก ลูวิส ดังค์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนาที 54 และเจ้าบ้านมาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะจาก บรูโน่ แฟร์นันเดส ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไปแล้ว 7 นาที หมดเวลาการแข่งขัน “ปีศาจแดง” เป็นฝ่ายชนะ 2-0 ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 4 อีกครั้ง แข่ง 25 นัด มี 43 คะแนน นำหน้า เวสต์แฮม ซึ่งหล่นลงไปอยู่อันดับ 5 อยู่ 2 คะแนน ส่วน ไบรท์ตัน อยู่อันดับ 9 แข่ง 24 นัด มี 33 แต้ม
หลังจบเกม ราล์ฟ รังนิค กุนซือ “ปีศาจแดง” ยอมรับว่ารู้สึกโล่งใจที่สามารถเก็บ 3 คะแนนเต็มได้อีกครั้ง เพราะว่าอยากจะพบกับชัยชนะเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมาคืนมานั่นเอง และลูกทีมทุกคนก็ช่วยกันทำได้สำเร็จ แต่เอ่ยปากตำหนิในจังหวะยิงประตูที่จะต้องทำให้เฉียบกว่านี้ พร้อมกับชื่นชม ดาบิด เด เคอา นายทวาวตัวเก่งที่โชว์ฟอร์มเหนียวหนึบจากการช่วยเซฟตาข่ายเอาไว้ได้หลายครั้งเลยด้วย จึงอีกหนึ่งคือเหตุผลที่ยังคงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูดีที่สุดในโลกต่อไป
ด้าน เกรแฮม พ็อตเตอร์ กุนซือ ไบรท์ตัน พอใจผลงานของลูกทีมในภาพรวม แม้จะต้องพบกับความปราชัยในท้ายที่สุด แต่เชื่อว่าน่าจะมีโอกาสทำได้ดีกว่านี้แน่ๆ ถ้ามีผู้เล่นเท่ากันจนถึงช่วงจบเกม เพราะเห็นได้ชัดเลยว่าลูกทีมของเขาโชว์ฟอร์มได้ดีในช่วงที่มีตัวผู้เล่นเท่ากัน โดยเฉพาะในช่วงแรกที่เล่นกันได้ดีเลยทีเดียว