ศึกฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันที่ 21 ธ.ค. “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก เปิดรังเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ทีมจากลีก วัน เกมนี้ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือเจ้าบ้านตัดสินใจพักแข้งหลักเกือบยกทีม เพื่อเปิดโอกาสให้พวกตัวสำรอง รวมถึงแข้งดาวรุ่งลงสนามในรายการนี้หลายคนเลย ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ เลโน่, ร็อบ โฮลดิ้ง, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, โฟลาริน บาโลกุน, นิโกลัส เปเป้ และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์
ในช่วงครึ่งแรก “ปืนใหญ่” ออกนำไปก่อน 2 ประตูจาก เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ในนาที 17 และ นิโกล่าส์ เปเป้ ในนาที 27 หลังจากนั้น “แมวดำ” ตีไข่แตกได้จาก นาธาน บรอดเฮด ในนาที 30 จบ 45 นาทีแรก อาร์เซนอล ขึ้นนำ 2-1 เข้าสู่ครึ่งหลัง อาร์เซนอล ซัดเพิ่มได้อีก 3 ประตูจาก เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ซัดเบิ้ลได้อีก 2 เม็ดในนาที 49 กับ 58 และเป็นการยิงแฮตทริกเหมาคนเดียว 3 ประตูในเกมนี้เลยด้วย ก่อนจะปิดท้ายด้วยการยิงแข้งเด็กจากฝีเท้าของ ชาร์ลี ปาติโน่ ในนาที 90 หมดเวลาการแข่งขัน “ปืนใหญ่” เป็นฝ่ายเปิดบ้านชนะ 5-1 จึงได้ทะยานผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้เป็นทีมแรก
หลังจบเกม มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ “ปืนใหญ่” กล่าวชมผลงานของลูกทีมที่เล่นได้ตามแผน ไม่ว่าจะเป็นพวกนักเตะสำรอง รวมถึงแข้งเด็กดาวรุ่งที่ได้รับโอกาสให้โชว์ฝีเท้าในนัดนี้ โดยเฉพาะ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ซึ่งโชว์ฟอร์มสุดเฉียบเหมาคนเดียวถึง 3 ประตู พร้อมกับเอ่ยปากชม ชาร์ลี ปาติโน่ ดาวรุ่งอีกรายหนึ่งที่ได้แจ้งเกิดในเกมนี้จากการยิงได้หนึ่งประตู และสร้างสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่สอยตาข่ายได้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนามด้วยวัย 18 ปี 65 วัน
ด้าน เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ หัวหอกดาวรุ่งที่สวมบทเป็นพระเอกในเกมนี้ได้แสดงความกระตือรือร้นอยากที่จะพิสูจน์ฝีเท้าของตัวเองต่อไป โดยพร้อมทำงานอย่างหนักเหมือนเดิม และยังคงพร้อมทุ่มเทให้กับ “ปืนใหญ่” อย่างแน่นอน แม้ว่าตอนนี้ใกล้จะหมดสัญญาในช่วงกลางปีหน้าแล้วก็ตาม