ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบเพลย์ออฟ นัดชิงชนะเลิศ โซนยุโรป สาย บี เมื่อคืนวันที่ 29 มี.ค. โปแลนด์ เปิดรังสลาสกี้ สตาดิโอน ต้อนรับการมาเยือนของ “ไวกิ้ง” สวีเดน เกมนี้ เซสลาฟ มิชเนียวิช กุนซือเจ้าบ้านยังคงให้พวกแข้งหลักลงสนามทั้งหมด นำทัพโดย ยาคุบ โมลเดอร์, เซบาสเตียน ซีมันสกี้, ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ด้านทีมเยือนของกุนซือ ยานน์ อันเดอร์สัน ตัดสินใจดร็อป ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงจอมเก๋าเป็นตัวสำรอง เพื่อให้ โรบิน ไควสัน ลงไปประสานแนวรุกร่วมกับ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, เดยัน คูลูเซฟสกี้ และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค
ในช่วงครึ่งแรกไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น เสมอ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง โปแลนด์ ซัดทีเดียว 2 ลูกรวดจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สังหารจุดโทษในนาที 50 และ ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ ในนาที 72 หมดเวลาการแข่งขัน โปแลนด์ เป็นฝ่ายชนะ 2-0 จึงได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 9 ไปเลย
หลังจบเกม เชสลาฟ มิชเนียวิช กุนซือ โปแลนด์ สดุดีผลงานของลูกทีมที่สามารถพิชิตเหนือ สวีเดน ได้สำเร็จ แม้ว่าทีมเยือนจะสร้างความลำบากให้กับทีมของเขาได้ตลอดทั้งเกมเลย แต่ลูกทีมยังคงเล่นกันด้วยความมุ่งมั่นแบบไม่มีอาการสมาธิหลุดให้เห็นเลย จึงได้รับรางวัลตอบแทน นั่นก็คือ การตบเท้าไปเล่นรอบสุดท้ายตามเป้าหมายที่วางเอาไว้นั่นเอง พร้อมกับยอมรับว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงตัวเก่งมีปัญหาบาดเจ็บตรงบริเวณหัวเข่าในช่วงก่อนเกมด้วย แต่ยังคงฝืนลงสนามตามความต้องการของนักเตะที่อยากจะลงไปช่วยทีมในเกมนัดสำคัญ และรู้สึกโชคดีที่ไม่ได้บาดเจ็บเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ด้าน ยานน์ อันเดอร์สัน กุนซือ สวีเดน สุดผิดหวังผลงานของลูกทีมที่เล่นกันได้แบบต่ำกว่ามาตรฐาน หากเทียบกับเกมรอบรองชนะเลิศที่เปิดบ้านเฉือนชนะ สาธารณรัฐเช็ก 1-0 แถมยังเสียสมาธิในช่วงครึ่งหลัง จึงเป็นฝ่ายเล่นผิดพลาดกันเอง และเปิดทางให้เจ้าบ้านยิงได้ 2 ประตู ทำให้ทีมของเขาชวดโอกาสไปเล่นรอบสุดท้ายแบบน่าผิดหวังเหลือเกิน แต่ยอมรับว่าลูกทีมยังมีอาการเหนื่อยล้าจากเกมรอบตัดเชือกที่ต้องเล่นกันถึง 120 นาทีเลยนั่นเอง