ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบเพลย์ออฟ โซนยุโรป รอบรองชนะเลิศ สาย ซี เมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค. “ฝอยทอง” โปรตุเกส เปิดรังเอสตาดิโอ โด ดราเกา ต้อนรับการมาเยือนของ “ไก่งวง” ตุรกี เกมนี้ แฟร์นันโด้ ซานโต๊ส กุนซือ โปรตุเกส มีการปรับทัพบางตำแหน่ง แต่แดนกลางยังคงจัดเต็มใช้ 3 ประสาน บรูโน่ แฟร์นันเดส, เจา มูตินโญ่ และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ส่วนแนวรุกให้ โอตาวิโอ ลงไปช่วย คริสติอาโน่ โรนัลโด้ และ ดิโอโก้ โจต้า ด้านทีมเยือนของกุนซือ สเตฟาน คุนท์ซ ปรับทีมบางตำแหน่ง แต่ยังใช้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกือบทั้งหมด นำทัพโดย เมรีห์ เดมิรัล, ชักลาร์ โซยุนคู, ฮาคาน ชัลฮาโนกลู, บูรัค ยิลมาซ และ เซนกิซ อุนแดร์
ในช่วงครึ่งแรก โปรตุเกส ออกนำไปก่อน 2 ประตูจาก โอตาวิโอ ในนาที 15 และ ดิโอโก้ โจต้า ในนาที 42 จบครึ่งแรก เจ้าบ้านขึ้นนำ 2-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง ตุรกี ไล่ตีตื้นได้จาก บูรัค ยิลมาซ ในนาที 65 และเกือบตามตีเจ๊าได้จากลูกจุดโทษในนาที 85 แต่ บูรัค ยิลมาซ สังหารพลาดเป้าไปแบบน่าเสียดาย หลังจากนั้น โปรตุเกส มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะจาก มาเธอุส นูเญส ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไปแล้ว 4 นาที หมดเวลาการแข่งขัน โปรตุเกส เป็นฝ่ายชนะ 3-1 ได้ผ่านเข้าสู่นัดชิงรอบเพลย์ออฟ สาย ซี ไปเฝ้ารังดวลแข้งกับ มาซิโดเนียเหนือ ที่เอสตาดิโอ โด ดราเกา ในคืนวันที่ 29 มี.ค.นี้ เพื่อชิงตั๋วผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายกันต่อไป
หลังจบเกม แฟร์นันโด ซานโต๊ส กุนซือ “ฝอยทอง” พอใจผลงานของลูกทีมที่สามารถเอาชนะ ตุรกี ได้สำเร็จ และมองข้ามชอตไปที่เกมต่อไป ซึ่งจะต้องเผชิญหน้ากับ มาซิโดเนียเหนือ ในนัดชิงตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายนั่นเอง โดยยอมรับว่าจะเป็นเกมที่หนักอย่างแน่นอน เพราะว่าตอนนี้ทีมคู่แข่งไม่ธรรมดาเลยอยู่แล้ว หลังจากที่พลิกล็อกเอาชนะ อิตาลี มาได้แบบเหลือเชื่อมากๆ และเป็นเกมนัดตัดสินชี้ชะตาที่จะแข่งแบบนัดเดียวรู้ผลกันไปเลย จึงเป็นเกมที่ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ทั้งหมดเลย ทำให้ต้องมีสมาธิกับเกมนัดหน้าให้มากที่สุด เพราะนี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะได้ผ่านเข้ารอบนั่นเอง ซึ่งจะพลาดไม่ได้เลยด้วย