ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนวันที่ 15 ก.พ. “เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิดรังปาร์ค เดส แปร็งซ์ ต้อนรับการมาเยือนของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เกมนี้ เมาริซิโอ โปเชตติโน่ กุนซือเจ้าบ้านจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามไปเลย แม้จะได้ เนย์มาร์ หายเจ็บกลับมาแล้ว แต่ให้นั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน โดยแนวรุกให้ อังเคล ดิ มาเรีย ลงไปประสานงานกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ ลิโอเนล เมสซี่ ด้านทีมเยือนของกุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ ให้พวกแข้งดังลงสนามเกือบทั้งหมด โดยแนวรุกได้ คาริม เบนเซม่า หายเดี้ยงกลับามาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพื่ประสานงานกับ วินิซิอุส จูเนียร์ และ มาร์โก อเซนซิโอ
ในช่วงครึ่งแรก “เปแอสเช” ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่มีสกอร์เกิดขึ้น จบ 45 นาทีแรก เสมอ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มีโอกาสขึ้นนำไปก่อนจากลูกจุดโทษในนาที 62 แต่ ลิโอเนล เมสซี่ สังหารพลาดไปติดเซฟของ ธีโบต์ กูร์ตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน หลังจากนั้น “ราชันชุดขาว” มีลุ้นได้ประตูจากจังหวะสวนกลับด้วยเช่นกัน และเกมทำท่าว่าจะลงเอยด้วยผลเสมออยู่แล้ว แต่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกมจาก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไปแล้ว 4 นาที หมดเวลาการแข่งขัน “เปแอสเช” เป็นฝ่ายเฉือนชนะแบบหวุดหวิด 1-0 โดยนัดที่ 2 จะบุกไปเยือน เรอัล มาดริด ที่เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว ในคืนวันที่ 9 มี.ค.นี้
หลังจบเกม เมาริซิโอ โปเชตติโน่ กุนซือ “เปแอสเช” สุดแฮปปี้ที่ลูกทีมช่วยกันเก็บชัยจากเกมนัดแรกได้สำเร็จ เพราะว่าทำผลงานในภาพรวมได้น่าประทับใจ แต่ยังเหลือการแข่งขันนัดที่ 2 อีกหนึ่งเกม จึงพร้อมทุ่มเทสมาธิเพื่อความไม่ประมาท เพราะรู้ดีว่านัดต่อไปจะต้องเป็นเกมที่ยากลำบากอย่างแน่นอน แต่ว่าพร้อมสู้แบบเต็มที่เพื่อจะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป
ด้าน คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือ “ราชันชุดขาว” เชื่อมั่นว่าทีมของเขาสมควรเป็นฝ่ายชนะด้วยเช่นกัน เพราะเล่นได้ดีกว่าทีมเจ้าบ้านในหลายๆ จังหวะ แต่ยอมรับผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น และพร้อมทำผลงานในเกมนัดที่ 2 ให้ได้ดีที่สุด เพื่อหวังพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายชนะ และจะได้ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ตามเป้า