รูดี้ โฟลเลอร์ รับบท ผอ.กีฬาคนใหม่ของเยอรมัน
รูดี้ โฟลเลอร์ ตำนานคนดังชาวเยอรมันได้รับหน้าที่ให้เป็นผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ของทีมชาติเยอรมัน หลังจากเก้าอี้ตัวนี้วางลงเมื่อไม่นานมานี้ ท่ามกลางความยินดีของทุกฝ่าย สร้างความเชื่อมั่นว่าเขาจะช่วยยกระดับทีมก้าวหน้าสู่ความสำเร็จได้ตามเป้าที่คาดหวัง ซึ่งเบื้องต้นเจ้าตัวลั่นวาจาไว้ว่าหลังจากนี้พร้อมลุยงานเต็มที่ โดยมีเป้าหมายสูงสุดก็คือ การพาทีมเดินหน้ายกระดับสู่ตำแหน่งเบอร์หนึ่งของวงการลูกหนังอีกครั้ง
รูดี้ โฟลเลอร์ เพิ่งรับตำแหน่งเป็นทางการเมื่อไม่กี่วันมานี้
โดยเรื่องนี้ทางด้านสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน (เดเอฟเบ) ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการเมื่อ วันศุกร์ ที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเก้าอี้ตัวนี้ไม่ถือว่าเหนือความคาดหมาย เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานออกมาว่าเขามีลุ้นรับหน้าที่ผอ.ฝ่ายกีฬาคนใหม่ของทัพอินทรีเหล็กสูงมาก ด้วยประสบการณ์ของเขาในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เจ้าตัวมีโอกาสรับหน้าที่ดังกล่าวสูงกว่าตัวเลือกอื่น อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีประกาศรายชื่อการแต่งตั้งเข้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าตัวจะมีอำนาจหน้าที่เป็นทางการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
เป้าหมายสูงสุดการมาของเขาคือต้องยกระดับทีมต่อเนื่อง
สำหรับหน้าที่แรกของเขาก็คือการยกระดับทีม ซึ่งจะต้องก้าวข้ามความยากลำบากที่เคยผ่านมาทั้งหมดให้ได้ โดยงานแรกของเขาถือว่าเป็นงานค่อนข้างหนัก เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาทีมชาติเยอรมันมีผลงานไม่ตรงตามเป้าบ่อยครั้งมาโดยตลอด โดยผลงานล่าสุดพาทีมชาติเยอรมันลงสนามแข่งขันคือรายการฟุตบอลโลก 2022 สิ่งที่เกิดขึ้นคือพวกเขาบอกลารายการนี้ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ดังนั้นจึงทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทันที
เดิมทีตำแหน่งนี้เป็นของ เบียร์โฮฟฟ์ มาก่อน
สำหรับเจ้าของเก้าอี้คนเดิมก็คือ โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟ ตำนานนักเตะคนดังของเยอรมัน เพิ่งเช่นการทำงานของเขาด้วยการลาออก ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีผลงานน่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่การพาทีมตกรอบรายการเวิลด์คัพ ตั้งแต่ไก่โห่ถึง 2 ครั้ง 2 หน ทำให้สุดท้ายการแยกทางคือคำตอบของทุกฝ่ายทันที และสุดท้ายจึงมีการตัดสินใจตั้งผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ขึ้นรับหน้าที่อย่างเป็นทางการ จนกระทั่งล่าสุดทัพอินทรีเหล็ก ประกาศแต่งตั้งอดีตผอ.กีฬาของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น รับหน้าที่เป็นทางการ
ทั้งนี้เจ้าตัวย้ำว่าพร้อมลุยเต็มที่กับหน้าที่ใหม่ที่ได้รับ
โดยเจ้าตัวเปิดใจถึงการรับตำแหน่งครั้งนี้ว่า “ผมใช้เวลาตัดสินใจนานพอสมควร แต่สุดท้ายคำตอบที่ผมได้คือ ควรรับหน้าที่นี้ แน่นอนว่าการทำงานร่วมกับที่นีคืออีกหนึ่งความท้าทายที่ผมยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน ส่วนหลังจากนี้สิ่งที่ผมจะทำก็คือการยกระดับทีม แน่นอนว่าผมตื่นเต้นกับหน้าที่ใหม่แต่ผมจะต้องมีสมาธิ กับการทำงานมากขึ้น สำหรับเป้าหมายเบื้องต้นก็คือ การพาทีมเพิ่มความแข็งแกร่ง และก้าวข้ามความยากลำบากที่เคยผ่านมาให้ได้”
รูดี้ โฟลเลอร์ มีประสบการณ์ทำงานในวงการลูกหนังหลากหลาย
ทั้งนี้ถ้าพูดถึงการทำงานของอดีตแข้งวัย 62 ปี อย่าง โฟลเลอร์ ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวเป็นอีกหนึ่งคนที่มีผลงานและเป็นคนที่มีประสบการณ์การทำงานในวงการลูกหนังสูงมาก โดยนอกเหนือจากการทำงานร่วมกัน เลเวอร์คูเซ่น แล้ว เขาเคยมีประสบการณ์ทำงานในฐานะผู้จัดการทีมมาก่อน ดังนั้นเขาน่าจะรู้ดีว่าสิ่งที่นักเตะ ทีมและแฟนบอลต้องการคืออะไร