ศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 28 ธ.ค. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยกพลบุกไปเยือน “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ที่คิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม และเป็นเกมนัดสุดท้ายปี 2021 ของทั้งสองทีมด้วย เกมนี้ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือทีมเยือนให้พวกแข้งหลักลงสนามเกือบทั้งหมด โดยแนวรุกยังคงจัดเต็มใช้ 3 ประสาน ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเม็ด ซาล่าห์ และ ดิโอโก้ โจต้า ด้านเจ้าบ้านของกุนซือ เบรนแดน รอดเจอร์ส กุนซือ เลสเตอร์ มีนักเตะหายหน้าหายตาจากปัญหาต่างๆ เพียบเลย แต่แดนหน้าให้ เจมี่ วาร์ดี้ กลับมายืนค้ำแนวรุกคู่กับ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่
ในช่วงครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก โมฮาเม็ด ซาล่าห์ ในนาที 14 แต่ยิงพลาดไปติดเซฟ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูเจ้าบ้านที่พุ่งเซฟเอาไว้ได้ เข้าสู่ครึ่งหลัง เลสเตอร์ มาได้ประตูชัยจาก อเดโมล่า ลุคแมน ในนาที 59 หมดเวลาการแข่งขัน “หงส์แดง” เป็นฝ่ายแพ้ 0-1 จึงยังคงรั้งอันดับ 2 แข่ง 19 นัด มี 41 คะแนน ตามหลัง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงที่แข่งน้อยกว่าหนึ่งเกมอยู่ถึง 6 คะแนน ส่วน เลสเตอร์ อยู่อันดับ 9 แข่ง 18 นัด มี 25 แต้ม
หลังจบเกม เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ “หงส์แดง” เอ่ยปากตำหนิลูกทีมเล่นพลาดกันเองในหลายๆ จังหวะ จึงโชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น และปล่อยให้ เลสเตอร์ มีพื้นที่เล่นกันเยอะเกินไป ซึ่งก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าเจ้าถิ่นเป็นทีมที่เล่นเกมตอบโต้ได้แบบเฉียบคมมากๆ แถมยังโชคไม่ดีจากจังหวะที่ โมฮาเม็ด ซาล่าห์ ซัดจุดโทษติดเซฟอีกต่างหาก จึงต้องเป็นฝ่ายพบกับความปราชัยจนได้
ด้าน เบรนแดน รอดเจอร์ส กุนซือ “จิ้งจอกสยาม” ประทับใจผลงานของลูกทีมแบบสุดๆ เพราะสามารถพลิกเอาชนะทีมแกร่งบนหัวตารางคะแนนได้สำเร็จ และเป็นการแก้ตัวจากความพ่ายแพ้นัดก่อนที่ปราชัยให้กับ แมนฯ ซิตี้ แบบยับเยินถึง 3-6 ได้เป็นอย่างดีเลยด้วย แม้จะต้องลงเล่นตามโปรแกรมแบบติดๆ กัน ทำให้ลูกทีมมีสภาพร่างกายที่ไม่ฟิตสมบูรณ์กันเป็นแถว แต่ทุกคนยังพร้อมลงเล่นด้วยความมุ่งมั่น จึงได้รับผลตอบแทนคือชัยชนะเหมือนอย่างที่หวังกันเอาไว้
สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
คริสตัล พาเลซ ชนะ นอริช 3-0
เซาแธมป์ตัน เสมอ สเปอร์ส 1-1
วัตฟอร์ด แพ้ เวสต์แฮม 1-4
เลสเตอร์ ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0